Rechercher dans ce blog

Monday, May 31, 2021

กรมคุก เจอผู้ต้องขังติดโควิด เกือบสองพันราย รักษาหายแล้วเกือบ 40 % - สยามรัฐ

วันที่ 31 พ.ค.64 ที่ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ (ศบค.รท.) เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2564 เวลา18.00 นาฬิกา) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 1,953 ราย รักษาหาย 1,315 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 16,272 ราย

ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานในภาพรวมชัดเจนและดีขึ้น จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังขอยืนยันว่ามีเรือนจำและทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 119 แห่ง ซึ่งขณะนี้มีผู้ติดเชื้อที่รักษาหายแล้วเกือบ 40% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด และมีแนวโน้มของจำนวนผู้หายป่วยที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงระบบคัดกรองเชื้อในผู้ต้องขังเข้าใหม่เพื่อแยกกักผู้ติดเชื้อที่สามารถแยกผู้ติดเชื้อออกจากผู้ต้องขังกลุ่มอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงคาดว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ยังคงเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อมิให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้นสถานการณ์ COVID-19 ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน

Adblock test (Why?)


กรมคุก เจอผู้ต้องขังติดโควิด เกือบสองพันราย รักษาหายแล้วเกือบ 40 % - สยามรัฐ
Read More

กินยาคุมก่อนฉีดวัคซีนโควิด ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันหรือไม่ l สรุปให้ - Spring

Adblock test (Why?)


กินยาคุมก่อนฉีดวัคซีนโควิด ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันหรือไม่ l สรุปให้ - Spring
Read More

สบายใจได้...กรมควบคุมโรคยันฉีดวัคซีนซิโนแวคเสี่ยงต่ำมากกับการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด - สยามรัฐ

เพจเฟซบุ๊ก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โพสต์ข้อความ กล่าวถึง ภาวะการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในปอดกับวัคซีนโควิด 19 โดยมีรายละเอียดดังนี้ ...จากกรณีที่หญิงอายุ 32 ปี ชาวอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านั้น 13 วัน ได้รับวัคซีนของบริษัท Sinovac ในวันที่ 14 พ.ค.2564 จากนั้น 5 วันต่อมาผู้ป่วยมีอาการใจสั่น ต่อมาหอบเหนื่อยและถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิต ในวันที่ 27 พ.ค.2564 โดยแพทย์วินิจฉัยว่ามีภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ แต่อย่างไรก็ตามข่าวนี้อาจสร้างความสงสัยถึงความปลอดภัยของวัคซีน ในเบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาแก่กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความเห็น ดังนี้

ภาวะการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในปอด (Pulmonary embolism) เกิดจากการที่มีลิ่มเลือดเกิดขึ้นในหลอดเลือดดำ และหลุดไปอุดที่หลอดเลือดที่ปอด (Venous thromboembolism; VTE) เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญ
ที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหายใจหอบเหนื่อยอย่างเฉียบพลัน และทำให้มีอัตราป่วยตายสูงได้ถึงร้อยละ 30 ผู้ป่วยที่เกิดโรคนี้ จากฐานข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขที่เก็บข้อมูลผู้ป่วยลิ่มเลือดอุดตันในปอด ระหว่างปี 2559 – 2563 พบว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคดังกล่าวประมาณปีละ 12,900 – 26,800 ราย คิดเป็นอัตราการป่วยประมาณ 200 – 400 รายต่อประชากรหนึ่งล้านคน โดยปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้ คือ พันธุกรรม ภาวะโรคมะเร็ง การไม่เคลื่อนที่เป็นเวลานานๆ การกินยาคุมกำเนิด หรือการได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมน เป็นต้น

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2564 พบว่า มีรายงานพบผู้ป่วยภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดภายหลังการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ทั่วโลกทั้งสิ้น 4,575 ราย จากการฉีดกว่า 1,800 ล้านคน คิดเป็นอัตราการเกิดโรคนี้เพียง 2.5 รายต่อประชากรล้านคนที่ได้รับวัคซีน ซึ่งจะเห็นได้ว่า ต่ำกว่าอัตราการเกิดในผู้ไม่ได้รับวัคซีนอย่างมาก และที่สำคัญสำหรับวัคซีนของบริษัท Sinovac นั้น มีรายงานพบ 7 ราย จากการฉีดไปมากกว่า 200 ล้านโดส และไม่พบสัญญาณที่บ่งว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 มีโอกาสเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดสูงขึ้น หรือวัคซีนเป็นสาเหตุโดยตรง นอกจากนี้จากข้อมูลการเฝ้าระวังเหตุการณ์ ไม่พึงประสงค์ภายหลังการได้รับวัคซีนของบริษัท Sinovac มากกว่า 2 ล้านโดสในคนไทย ไม่เคยมีรายงานผู้ป่วยลิ่มเลือดอุดตันในปอดภายหลังการได้รับวัคซีนดังกล่าว

ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนของบริษัท Sinovac ต่อไปได้ และผู้มารับบริการฉีดวัคซีนทั้งสองชนิด ไม่จำเป็นต้องหยุดการใช้ยาคุมกำเนิด เนื่องจากไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงในการฉีดวัคซีน แต่ให้เฝ้าดูอาการ และหากมีอาการผิดปกติที่ไม่แน่ใจว่าจะมีภาวะนี้หรือไม่ เช่น อาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น เจ็บหน้าอก ไอเป็นเลือด ปวดบวมขา หรืออาการอื่น ๆ ที่รุนแรง ให้ปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

Adblock test (Why?)


สบายใจได้...กรมควบคุมโรคยันฉีดวัคซีนซิโนแวคเสี่ยงต่ำมากกับการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด - สยามรัฐ
Read More

ไม่ลือแล้ว! อุดรฯ ช็อกเจอโควิดสายพันธุ์อินเดีย 4 คน แพทย์แจงชายวัย 58 ดับหลังฉีดวัคซีน - ข่าวสด

ไม่ลือแล้ว! อุดรฯ ช็อกเจอโควิดสายพันธุ์อินเดีย 4 คน เป็นคนที่เดินทางมาจากแคมป์คนงานที่ กทม. แพทย์แจงชายวัย 58 ดับหลังฉีดวัคซีน

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

วันที่ 31 พ.ค.64 นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี, นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี แถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.อุดรธานี โดย นายสยาม เปิดเผยว่า สถิติของผู้ติดเชื้อตั้งแต่วันศุกร์มีผู้ติดเชื้อ 7 ราย วันเสาร์มีผู้ติดเชื้อ 2 ราย และวันอาทิตย์มีผู้ติดเชื้อ 2 ราย และต้องมีเรื่องต้องติดตามอีกหลายเรื่อง เช่นเรื่องของฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิต และเรื่องพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย จำนวน 4 รายในพื้นที่ จ.อุดรธานี นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย รวมเป็น 4 ราย

นพ.อุเทน เปิดเผยว่า ถึงวันนี้ (31 พ.ค.) ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 488 ราย รักษาหาย 418 ราย รักษาตัวอยู่ 66 ราย ยอดเสียชีวิตรวมแล้ว 4 ราย ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียในพื้นที่ จ.อุดรธานีแล้ว จำนวน 4 ราย เป็นคนงานที่เดินทางมาจากแคมป์คนงานหลักสี่ คือ รายที่ 409 เพศหญิง อายุ 24 ปี ทำงานอยู่เขตปทุมวัน กทม. รักษาตัวอยู่ ร.พ.โนนสะอาด รายที่ 413 เพศหญิง อายุ 26 ปี อาชีพรับจ้างอยู่หลักสี่ รักษาตัว อยู่ อ.บ้านดุง รายที่ 412 เพศหญิง อายุ 13 ปี อยู่ อ.กุดจับ และรายที่ 449 เป็นเพศชาย อายุ 53 ปี ทำงานรับเหมาก่อสร้างในแคมป์หลักสี่ ผลปรากฏว่าเป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย

ซึ่งทั้ง 4 รายตอนนี้กระจายการรักษาตัวที่ รพ.โนนสะอาด, รพ.กุดจับ, รพ.บ้านดุง และ รพ.กุมภวาปี ตอนนี้ จ.อุดรธานี มีการแพร่ระบาดหลายคลัสเตอร์ เช่น คลัสเตอร์นวดแผนไทย งานเลี้ยงเกษียนของสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ อ.กุดจับ งานขนส่งสินค้า คลัสเตอร์สำนักงานที่ดิน และมีการระบาดไปในหลายอำเภอทั้ง อ.กุดจับ อ.โนนสะอาด อ.บ้านดุง และ อ.กุมภวาปี เป็นต้น โดยรวมมีโอกาสพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงอยู่ เราต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสายพันธุ์อินเดียที่พบการะบาดแล้วในจ.อุดรธานี

ด้าน นพ.สุมน ตั้งสุนทรวิวัฒน์ รอง ผอ.รพ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากกรณีชายวัย 58 ปี ที่เสียชีวิตหลังไปฉีดวัคซีนซิโนแวค ขอเรียนชี้แจงว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้ป่วยมีโรคประจำตัว เข้ารับการฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 22 พ.ค.64 ต่อมาวันที่ 29 พ.ค.64 มีอาการเจ็บแน่นหน้าอก จึงรีบเดินทางไปที่ รพ.วัฒนาฯ โดยตรวจ EKG เบื้องต้นผลปกติ แพทย์ให้กลับบ้าน แต่ยังมีอาการแน่นหน้าอกตลอดเวลา

กลางคืนมีอาการทรุดลง วันที่ 30 พ.ค.64 นำส่ง รพ.อุดรธานี เกิดอาการ sudden cardiac arrest สาเหตุการเสียชีวิตคือ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ไม่เกี่ยวกับวัคซีนซิโนแวค ปัจจัยเสี่ยง heavy smoking โดยภรรยาและลูกไม่ติดใจ ปฏิเสธ Auopsy เข้าใจดีว่าเป็นโรคหัวใจเฉียบพลัน

Adblock test (Why?)


ไม่ลือแล้ว! อุดรฯ ช็อกเจอโควิดสายพันธุ์อินเดีย 4 คน แพทย์แจงชายวัย 58 ดับหลังฉีดวัคซีน - ข่าวสด
Read More

ChulaCov19 : วัคซีนไทยต้านไวรัสกลายพันธุ์ - ฐานเศรษฐกิจ

Nature วารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์สัมภาษณ์ผู้ก่อตั้งศูนย์วิจัยวัคซีนจุฬา เกี่ยวกับวัคซีนโควิด 19 ชื่อว่า ChulaCov19 โดย ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ให้สัมภาษณ์ไว้ดังนี้

ประเทศไทยกำลังอยู่ในกระบวนการนำวัคซีนต้านไวรัสโควิด 19 แบบชนิด mRNA ตัวแรก ที่จะทำการทดลองในมนุษย์ ถ้าวัคซีนนี้ประสบความสำเร็จ ไทยอาจเป็นผู้ส่งออกวัคซีนสู่ตลาดเอเชีย

ปีที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัววัคซีนที่ใช้ mRNA จากการวิจัยของบริษัทต่างๆ เช่น ไฟเซอร์จากเมืองนิวยอร์ก บิออนเทคจากเยอรมนี และโมเดอร์น่าจากรัฐแมสซาชูเซตส์ วัคซีนเหล่านี้ได้รับการยืนยันแล้วว่าสามารถต้านเชื้อโควิด 19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้ถูกแจกจ่ายให้ผู้คนแล้วกว่าร้อยล้านคน

ในภูมิภาคเอเชีย  จีน อินเดีย และญี่ปุ่น เป็นประเทศต้นแบบวัคซีนและได้ทำการทดลองเกี่ยวกับวัคซีน mRNA อย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องด้วยภาวะเร่งด่วนจากการขาดแคลนวัคซีนและยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยจึงกลายเป็นผู้ผลิตวัคซีนหน้าใหม่เพื่อที่จะส่งออกสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และใช้ภายในประเทศเอง เพราะยอดผู้ติดเชื้อของประเทศไทยตอนนี้ต่อวันก็พุ่งสูงถึง 3,500 คน เป็นยอดสูงที่สุดตั้งแต่เกิดการระบาดไวรัสนี้เลย    

Nature ได้สัมภาษณ์นักภูมิคุ้มกันวิทยา .นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้ก่อตั้งศูนย์วิจัยวัคซีนจุฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกี่ยวกับวัคซีนโควิด 19 ชื่อว่า ChulaCov19

ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผอ.โครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ


คำถาม: อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ ทำการทดลองวัคซีนของตัวเอง?

คำตอบ: ย้อนกลับไปการระบาดของไข้หวัดใหญ่ H1N1 ช่วงปี 2542-2543 ประเทศไทยต้องใช้เวลานานกว่า 1 ปีในการที่จะได้รับวัคซีน ดังนั้นในการระบาดครั้งนี้ ประเทศไทยจึงต้องการที่จะผลิตและพัฒนาวัคซีนขึ้นมาเอง เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องรออีกต่อไป แม้ตอนนี้เราจะผลิตวัคซีนออกมาไม่ทันช่วงการระบาดแรก ๆ แต่เราก็น่าจะพัฒนาได้ทันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่ระบาดในระลอกหลัง เป้าหมายของเราคือการผลิตวัคซีนได้เพียงพอต่อความต้องการของประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านเช่นกัน และเป็นราคาที่จับต้องได้ของประชาชนทุกคน
 

คำถาม: ทำถึงทำการทดลองโดยใช้เทคโนโลยี mRNA ?  

คำตอบ: ผมได้ก่อตั้งห้องทดลองที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับด้านวัคซีนโดยเฉพาะเมื่อประมาณ 10  ปีที่ผ่านมา ทางศูนย์วิจัยได้ทำการพัฒนาวัคซีนเพื่อใช้รักษาโรคไข้ส่า โรคฉี่หนู โรคมะเร็งโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ต่าง ๆ และเมื่อปี 2560 ทางเราได้เชิญผู้พัฒนาเทคโนโลยี mRNA คนแรก ดริว เวซแมน จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย รัฐฟิลาเดลเฟีย สหรัฐฯ เพื่อพูดงานอภิปรายประจำปีของทางศูนย์วิจัย แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางศูนย์วิจัยจึงหันมาพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสแทน

จุดเด่นของวัคซีน mRNA ก็คือมันสามารถผลิตออกมาได้ในปริมาณที่เยอะและรวดเร็ว ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตในระยะยาวลดต่ำลง วัคซีนเหล่านี้มีสารพันธุกรรมเล็ก ๆ อันหนึ่ง คือ mRNA เพื่อบอกให้เซลล์ไปสร้างโปรตีนจำเพาะ ดังเช่น โปรตีนสไปค์ที่ SARS-CoV-2 ใช้เพื่อเข้าสู่เซลล์ร่างกาย วัคซีนพวกนี้สามารถพัฒนาตนเองอย่างรวดเร็วโดยใช้ข้อมูลของลำดับจีโนมของไวรัส นั่นก็หมายความว่า เราไม่ต้องรอให้ไวรัสสายพันธุ์ใหม่เข้ามาประเทศไทยเพื่อพัฒนาวัคซีน


คำถาม: ความคืบหน้าของการทดลองในครั้งนี้

คำตอบ: ChulaCov19 มีผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจจากการศึกษาทางคลินิกวิจัย ที่ยังไม่ได้เผยแพร่อย่างเป็นทางการ จากการทดลองในหนูและโมเดลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เราวางแผนที่จะทำการทดลองระยะที่ 1 ในมนุษย์จริง ๆ ช่วงเดือนมิถุนายน แถมเราได้ทำการพัฒนาวัคซีนใหม่ต้านสายพันธุ์ B.1.351 และ B.1.1.7 อีกด้วย และแน่นอนว่าทางทีมงานยังจับตาดูสายพันธุ์ B.1.617 ที่มีต้นกำเนิดจากอินเดียอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ทางด้านศูนย์วิจัยมีความปลื้มปิติที่ดำเนินการมาไกลขนาดนี้ แต่ก็ยังใช้ระยะเวลาตั้งกว่า 1 ปีในการดำเนินการกับมนุษย์จริง ๆ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามหลังบริษัทยารายใหญ่ระดับโลกหลายเจ้า


คำถาม: ตอนนี้วางแผนการทดลองอย่างไรบ้าง

คำตอบ: การทดลองระยะแรก (ระยะที่ 1) จะดำเนินการทดลองกับมนุษย์ 100 คน เพื่อหาวัคซีนที่มีความเหมาะสมต่อระบบภูมิคุ้มกัน บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐฯอาจจะผลิตวัคซีน mRNA รุ่นที่ 1 ออกมา แต่ภายในเดือนกันยายน ประเทศไทยจะพึ่งการผลิตวัคซีนของบริษัท BioNet-Asia ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ
 

คำถาม: ในตอนนี้อะไรเป็นสิ่งที่ท้าทายมากที่สุด

คำตอบ: แน่นอนว่าตอนนี้เงินทุนเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด เนื่องจากว่าเราเป็นศูนย์วิจัยทางวิชาการ รายได้หลักของเราย่อมมาจากรัฐบาล และเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ปี2563 ที่ผ่านมา ทางศูนย์วิจัยของเราได้ค้นพบผลการทดลองทางคลินิกที่ค่อนข้างน่าสนใจ แต่ต้องใช้เวลาถึง 6 เดือนเพื่อขอเงินทุนในการทดลองจริงกับมนุษย์ นอกจากนี้ยังต้องใช้เวลาในการสอนวิธีการผลิตวัคซีนแก่ผู้ผลิตในประเทศไทย

คำถาม: คุณคิดว่า คุณจะได้รับประโยชน์จากการยกเว้นการจดสิทธิบัตรวัคซีน COVID-19 หรือไม่

คำตอบ: หากทำข้อตกลงการยกเว้นการคุ้มครองสิทธิบัตรวัคซีนป้องกันโควิด-19ในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางได้ ก็จะเป็นเรื่องดีมาก เพราะมันจะทำให้เราได้ใช้เทคโนโลยีที่ปัจจุบันราคาสูงหรือเข้าถึงได้ยาก ซึ่งส่งผลให้วัคซีนของเราประสิทธิภาพดีขึ้นและราคาถูกลง แต่ถึงกระนั้นการยกเว้นการจดสิทธิบัตรก็ยังคงเป็นขั้นแรกอยู่ดี ศูนย์วิจัยของเรายังต้องการเงินทุน กำลังการผลิตในด้านท้องถิ่น และการเข้าถึงวัตถุดิบที่สำคัญ


คำถาม: คุณจะทำยังไงให้ได้รับการรับรองวัคซีนโดยไม่ต้องพึ่งการทดลองขั้นปลาย

คำตอบ: องค์กรอนามัยโลก สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐอเมริกา และองค์กรอื่น ๆ มากมายทั่วโลก กำลังหาทางระบุระดับของแอนติบอดีที่เป็นกลางที่วัคซีนควรกระตุ้นในการป้องกันอย่างเพียงพอ การป้องกันนี้ จะใช้เพื่อประเมินประสิทธิผลของวัคซีนโดยไม่ต้องพึ่งการทดลองขั้นปลาย ไม่เหมือนกับวัคซีนป้องกันโรคหวัดที่ต้องใช้การทดลองขั้นปลาย เรายังขอตัวอย่างเลือดจากคนที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ - ไบโอเอนเทค จากประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย และตัวอย่างเลือดของคนที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า เซเนก้า และซิโนแวคจากประเทศไทย ขณะเดียวกันหากระดับภูมิคุ้มกันจากตัวอย่างในวัคซีนที่จุฬาทดลองมีค่าที่ดีเทียบเท่าหรือดีกว่า วัคซีนอื่นๆที่ขอตัวอย่างมา ก็อาจทำให้วัคซีนของไทยผ่านการอนุมัติใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยไม่ผ่านการทดลองขั้นปลายหรือเฟสที่ 3  

Adblock test (Why?)


ChulaCov19 : วัคซีนไทยต้านไวรัสกลายพันธุ์ - ฐานเศรษฐกิจ
Read More

สธ.แจงแล้ว! พบภาวะลิ่มเลือดอุดตันปอดในหญิงอายุ 32 ปี หลังฉีด ซิโนแวค - เนชั่นทีวี สถานีข่าว 24 ชั่วโมง

จากกรณีที่หญิงอายุ 32 ปี ชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านั้น 13 วัน ได้รับวัคซีนของ บริษัท ซิโนแวค เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2564 จากนั้น 5 วันต่อมาผู้ป่วยมีอาการใจสั่น จากนั้นหอบเหนื่อยและถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล และเสียชีวิต ในวันที่ 27 พ.ค. 2554 โดยแพทย์วินิจฉัยว่า มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตามข่าวนี้อาจสร้างความสงสัยถึงความปลอดภัยของวัคซีน เบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญที่ให้คําปรึกษาแก่กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความเห็น ดังนี้

ภาวะการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในปอด (Pulmonary embolism) เกิดจากการที่มีลิ่มเลือดเกิดขึ้นในหลอดเลือดดํา และหลุดไปอุดที่หลอดเลือดที่ปอด (Venous thromboembolism; VTE) เป็นหนึ่งในสาเหตุสําคัญที่ทําให้ผู้ป่วยมีอาการหายใจหอบเหนื่อยอย่างเฉียบพลัน และทําให้มีอัตราป่วยตายสูงได้ถึงร้อยละ 30

จากฐานข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขที่เก็บข้อมูลผู้ป่วยลิ่มเลือดอุดตันในปอด ระหว่างปี 2559-2563 พบว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคดังกล่าว ประมาณปีละ 12,900-26,800 ราย คิดเป็นอัตราการป่วยประมาณ 200-400 รายต่อประชากรหนึ่งล้านคน โดยปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้ คือ พันธุกรรม ภาวะโรคมะเร็ง การไม่เคลื่อนที่เป็นเวลานานๆ การกินยาคุมกําเนิด หรือการได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมน เป็นต้น โดยไม่มีความเกี่ยวข้องกับการได้รับวัคซีนใดๆ

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2554 พบว่า มีรายงานพบผู้ป่วยภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดภายหลังการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั่วโลกทั้งสิ้น 4,575 ราย จากการฉีดกว่า 1,800 ล้านคน คิดเป็นอัตราการเกิดโรคนี้เพียง 2.5 รายต่อประชากรล้านคนที่ได้รับวัคซีน ซึ่งจะเห็นได้ว่าต่ำกว่าอัตราการเกิดในผู้ไม่ได้รับวัคซีนอย่างมาก และที่สําคัญสําหรับวัคซีนของ ซิโนแวค นั้น มีรายงานพบ 7 ราย จากการฉีดไปมากกว่า 200 ล้านโดส และไม่พบสัญญาณที่บ่งว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีโอกาสเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดสูงขึ้น หรือวัคซีนเป็นสาเหตุโดยตรง

นอกจากนี้จากข้อมูลการเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังการได้รับวัคซีนของ บริษัท ซิโนแวค มากกว่า 2 ล้านโดสในคนไทย ไม่เคยมีรายงานผู้ป่วยลิ่มเลือดอุดตันในปอดภายหลังการได้รับวัคซีนดังกล่าว

ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนําให้ฉีดวัคซีนของซิโนแวคต่อไปได้ และผู้มารับบริการฉีดวัคซีนทั้งสองชนิด ไม่จําเป็นต้องหยุดการใช้ยาคุมกําเนิด เนื่องจากไม่มีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน แต่ให้เฝ้าดูอาการหลังฉีดอย่างใกล้ชิด และหากมีอาการผิดปกติใดๆ ที่ไม่แน่ใจว่าจะมีภาวะนี้หรือไม่ เช่น อาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น ปวดบวมขา ให้ปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV

Adblock test (Why?)


สธ.แจงแล้ว! พบภาวะลิ่มเลือดอุดตันปอดในหญิงอายุ 32 ปี หลังฉีด ซิโนแวค - เนชั่นทีวี สถานีข่าว 24 ชั่วโมง
Read More

โควิดสายพันธุ์อินเดียโผล่เข้าอุดรฯ หอบเชื้อมาจาก กทม.-ปริมณฑล - ช่อง 7

วันนี้ ( 31 พ.ค.64) นพ.อุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เผยว่าทีมแพทย์ได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เช่น กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ โดยมีประวัติเกี่ยวข้องกับแคมป์คนงาน จึงได้ส่งตรวจหาสารพันธุกรรมในเชื้อ ได้รับการยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์อินเดีย 4 คน ดังนี้

รายแรก เป็นเพศหญิง อายุ  24 ปี ทำงานที่เขตปทุมวัน กทม. แต่พักอยู่ในเขตหลักสี่ ต่อมาเดินทางกลับ อ.โนนสะอาด ตรวจพบเชื้อ วันที่ 14 พ.ค.64 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 8 คน

รายที่ 2 เป็นเพศหญิง อายุ 26 ปี อาชีพช่างเหล็ก เขตหลักสี่ กทม. มีที่พักอยู่ในเขตบางบอน วันที่ 13 พ.ค.64 เดินทางกลับ อ.กุดจับ โดยไปกักตัวเองอยู่ที่สวนยางพารา ต่อมาตรวจพบเชื้อโควิด มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1 คน ตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง ไม่พบเชื้อ 

รายที่ 3 เป็นหญิง อายุ 13 ปี เดินทางไปพักอยู่กับพ่อแม่ที่เขตวังทองหลาง กทม. ต่อมาเดินทางกลับบ้านที่ อ.กุดจับ ตรวจพบเชื้อวันที่ 15 พ.ค.64 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 10 คน

รายที่ 4 เป็นเพศชาย อายุ 53 ปี อาชีพผู้รับเหมารายย่อย ย่านหลักสี่ กทม. ต่อมาเดินทางกลับบ้านที่ อ.กุมภวาปี วันที่ 22 พ.ค.64 ผลตรวจพบติดเชื้อ  มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง  4 คน

https://cdni-cf.ch7.com/i/images/2021/05/31/60b4cc25480a55.32184123.JPG

สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจะต้องตรวจหาเชื้อ 3 ครั้ง โดยโควิดสายพันธุ์อินเดียแพร่เชื้อเร็ว และมีความรุนแรงใกล้เคียงสายพันธุ์อังกฤษ  ซึ่งผู้ป่วยทั้ง 4 คน อาการไม่รุนแรง สสจ. ได้เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด

Adblock test (Why?)


โควิดสายพันธุ์อินเดียโผล่เข้าอุดรฯ หอบเชื้อมาจาก กทม.-ปริมณฑล - ช่อง 7
Read More

โควิดชลบุรีติดเชื้อเพิ่ม 62 คน เสียชีวิต 3 คน - ผู้จัดการออนไลน์


สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ประจำวันที่ 31 พ.ค.64 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 62 คน ยอดผู้ป่วยสะสม 4,669 คน กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล 992 คน หายป่วยแล้ว 3,649 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 คน ยอดสะสมผู้เสียชีวิต 28 คน

Adblock test (Why?)


โควิดชลบุรีติดเชื้อเพิ่ม 62 คน เสียชีวิต 3 คน - ผู้จัดการออนไลน์
Read More

แพทย์ตอบคำถาม ปมกินยาคุมแล้วฉีดวัคซีนโควิด ยันฉีดได้-ไม่ต้องหยุดยาคุม - เรื่องเล่าเช้านี้

Adblock test (Why?)


แพทย์ตอบคำถาม ปมกินยาคุมแล้วฉีดวัคซีนโควิด ยันฉีดได้-ไม่ต้องหยุดยาคุม - เรื่องเล่าเช้านี้
Read More

ลุ้นข่าวดี ! วัคซีนจุฬา ใช้เทคโนโลยีล้ำยุคเทียบ ไฟเซอร์ - โมเดอร์นา จ่อทดสอบกับมนุษย์ มิ.ย. นี้ - Kapook.com

          วารสารชื่อดัง เผยความคืบหน้า วัคซีนจุฬา ChulaCov19 เจ้าแรกในอาเซียนที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับ ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา เตรียมทดสอบกับมนุษย์มิถุนายน นี้


          วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนเจอร์ วารสารวิทยาศาสตร์ชื่อดังของโลก ยกย่องนักวิทยาศาสตร์ไทย พัฒนา วัคซีนโควิด-19 ด้วยเทคโนโลยีและคุณภาพระดับโลก เทียบชั้นวัคซีน ไฟเซอร์ และ โมเดอร์น่า เพื่อนำมาให้คนไทยและประเทศเพื่อนบ้านได้ใช้ในราคาที่ถูกกว่ามาก

           สำหรับวัคซีนดังกล่าวคือ ChulaCov19 ที่พัฒนาขึ้นโดย ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งของโลกที่พัฒนาวัคซีนด้วยเทคโนโลยี mRNA เช่นเดียวกับไฟเซอร์ และ โมเดอร์น่า เป็นวัคซีนที่ต่อยอดขึ้นมาเพื่อรับมือกับ โควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกา (B.1.351) และสายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) รวมถึงยังอาจพัฒนาให้รับมือกับสายพันธุ์อินเดีย (B.1.617) ได้อีกด้วย


           วัคซีน ChulaCov19 นี้จะเริ่มทดสอบเฟสแรกกับมนุษย์ ภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยใช้อาสาสมัครจำนวน 100 คน เพื่อหาจำนวนโดสที่เหมาะสมในการสร้างภูมิคุ้มกัน โดยจะใช้บริษัทในสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตวัคซีนทดลองลอตแรก หลังจากนั้นในเดือนกันยายนก็จะเริ่มผลิตในประเทศไทยเอง โดยบริษัท ไบโอเน็ต - เอเซีย (BioNet-Asia)

           การทดสอบความสามารถของวัคซีน ChulaCov19 จะใช้ผลการทดสอบเทียบกับตัวอย่างเลือดจากผู้ที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ในต่างประเทศ และแอสตร้าเซนเนก้า จากประเทศไทย หากผลการทดสอบพบว่าภูมิคุ้มกันของผู้ที่ได้รับวัคซีน ChulaCov19 เทียบเท่าหรือดีกว่าภูมิคุ้มกันของผู้ที่ได้รับวัคทั้ง 2 ชนิดดังกล่าว ก็น่าที่จะขออนุมัติใช้ในไทยเป็นการพิเศษโดยเร่งด่วนได้


           ห้องปฏิบัติการวัคซีนของ ศ.นพ.เกียรติ ถูกก่อตั้งมากว่า 10 ปี โดยเริ่มต้นพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกและโรคฉี่หนู ซึ่งก็ได้มีการพัฒนาศักยภาพให้มีคุณภาพที่ก้าวล้ำนำสมัยอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเทคโนโลยีการพัฒนาวัคซีนชนิด mRNA นี้ได้เริ่มต้นมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแห่งเพนซิลเวเนีย ที่เป็นผู้ริเริ่มวัคซีนชนิดนี้ พัฒนาวัคซีนโรคภูมิแพ้ขึ้น เมื่อมีการระบาดของโควิด-19 ก็ได้หันมาพัฒนาวัคซีนเพื่อรับมือกับการระบาดครั้งนี้

           วัคซีน ChulaCov19 มีผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ดีเยี่ยมมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 ด้วยศักยภาพและความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกาที่มีอยู่ แต่ก็ต้องประสบกับปัญหาการสนับสนุนของรัฐบาลในเรื่องทุนวิจัยและการขออนุมัติให้สามารถทดลองในมนุษย์ได้ ซึ่งก็เพิ่งได้รับการอนุมัติให้ทดสอบในมนุษย์ในเดือนมิถุนายนนี้

           หากผลการทดสอบเป็นไปได้ด้วยดี ประเทศไทยก็จะสามารถพัฒนาขึ้นมาเป็นแหล่งผลิตวัคซีนชนิด mRNA ที่สำคัญประเทศหนึ่งในทวีปเอเชีย และเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่สามารถพัฒนาวัคซีนชนิดนี้ขึ้นมาเองได้

ขอบคุณข้อมูลจาก
กวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล, Nature

Adblock test (Why?)


ลุ้นข่าวดี ! วัคซีนจุฬา ใช้เทคโนโลยีล้ำยุคเทียบ ไฟเซอร์ - โมเดอร์นา จ่อทดสอบกับมนุษย์ มิ.ย. นี้ - Kapook.com
Read More

ผู้ต้องขังหลายเรือนจำ หายป่วยเพิ่มขึ้น ด้านเรือนจำบางขวางยอดติดเชื้อพุ่ง 1350 - เรื่องเล่าเช้านี้

Adblock test (Why?)


ผู้ต้องขังหลายเรือนจำ หายป่วยเพิ่มขึ้น ด้านเรือนจำบางขวางยอดติดเชื้อพุ่ง 1350 - เรื่องเล่าเช้านี้
Read More

แพทย์ชนบท ผุดข้อเสนอใหม่ เทวัคซีนแอสตร้าฯหมดหน้าตัก ที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล - มติชน

เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ชมรมแพทย์ชนบท เผยแพร่ข้อความเป็นข้อเสนอต่อรัฐ กรณีการบริหารจัดการวัคซีนและการต่อสู้กับวิกฤตโควิด 19 ระบุว่า

ข้อเสนอใหม่ “หยุดระบาดโควิดให้ตรงจุด ถมวัคซีนแอสตร้าหมดหน้าตักที่กรุงเทพและปริมณฑล”

การระบาดระลอก 3 นั้น มีการระบาดหนักที่สุดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิดระลอก 3 ตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 30 พฤษภาคม 2564 มีผู้ป่วยโควิดทั้งสิ้น 100,412 คน อยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล 5 จังหวัดถึง 60,781 คน หรือคิดเป็น 60% ของทั้งประเทศ การยุติการระบาดในเมืองหลวงนั้นปัจจุบันทำได้แค่ยืนพิงเชือกอย่าให้ล้ม รอวัคซีนมาช่วย แต่เมื่อวัคซีนมาน้อย แอสตร้าเซเนก้าไม่มาตามนัด ซิโนแวคก็ต้องกระจายทั่วประเทศ ไฟเซอร์โมเดิร์นนายังไม่แม้แต่ส่งเงินไปจองวัคซีน ซิโนฟาร์มจะมาlotใหญ่ได้แค่ไหนยังไม่รู้ การยุติการระบาดในกรุงเทพจึงไม่เห็นอนาคต

ที่สำคัญ กรุงเทพและปริมณฑล มีระบบการสาธารณสุขที่อ่อนแอที่สุดในประเทศ คือ มีแต่ระบบโรงพยาบาลที่ไว้รับดูแลยามป่วย ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอ และไม่มีระบบบริการปฐมภูมิที่ดี ที่จะทำหน้าที่ควบคุมโรค แค่การระบาดในคลองเตย ใครจะแจกแจงข้อมูล สอบสวนโรค คัดแยกกลุ่มเสี่ยง ทำ swab ตรวจโควิด เอาคนป่วยไปรักษา เอาคนเสี่ยงไปกักตัว ซึ่งในความเป็นจริงนั้นแทบจะทำไม่ไหว สิ่งที่ทำได้คือการเปิดโรงพยาบาลสนามเพื่อรอรับคนป่วยมารักษาเท่านั้น

เมื่อกรุงเทพระบาด ธุรกิจทยอยปิดตัว พนักงานก็ลำบาก ต่างเดินทางกลับต่างจังหวัดอย่างน้อยก็ยังมีข้าวกิน จึงเป็นการส่งออกเชื้อโควิดไปทั่วประเทศ ดังนั้นหากไม่สามารถหยุดการระบาดที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้ ต่างจังหวัดก็ยังเสี่ยงต่อไป

ทางเลือกหนึ่งเพื่อการยุติการระบาดของโควิดระลอก3 ด้วยข้อจำกัดที่วัคซีนมีน้อยมาก ก็คือ ต้องเลือกเป้าที่จะยิง ไม่ใช่ยิงกระจัดกระจายเป็นเบี้ยหัวแตก และรัฐบาลต้องกล้าหาญเอาการเมืองออกจากวัคซีน

ชมรมแพทย์ชนบท จึงมีข้อเสนอใหม่สำหรับรัฐบาล ขอให้ ศบค.นำวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าทั้งหมด ราว 1.8 ล้านโดส ที่ผลิตได้จากสยามไบโอไซแอนในเดือนมิถุนายนนี้ เทหมดหน้าตักถมลงที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 3 จังหวัด อาทิ จัดให้กรุงเทพมหานคร 9 แสนโดส เพื่อกระจายลงในเขตที่มีการระบาด และจัดไปที่ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ จังหวัดละ 3 แสนโดส ฉีดให้เสร็จใน 1 สัปดาห์ จะช่วยลดการระบาดลงได้มาก บทเรียนจากแม่สอดพบว่า ที่นั่นได้ฉีดวัคซีนเพียง 30% ก็มี herd immunity พอที่จะไม่ระบาดใหญ่แล้ว ส่วนจะให้ถึง 70% นั้นคงยากในภาวะที่ไทยเราที่มีวัคซีนในมือน้อยเช่นนี้

ทำไมต้องเป็นแอสตร้า ก็เพราะวัคซีนแอสตร้าเกิดภูมิคุ้มกันหลังการฉีดเข็มแรกถึงมากกว่า 80 % ในขณะที่วัคซีนซิโนแวคต้องรอหลังเข็ม 2 จึงจะเกิดภูมิในระดับที่ใกล้เคียงกัน แต่เมื่อคนจองหมอพร้อมไว้เขาก็รอแอสตร้าอยู่ รัฐบาลจะพร้อมไหมที่จะอธิบายทำความเข้าใจสื่อสารกับคนไทยทั้งประเทศ ให้เห็นถึงความจำเป็นนี้ หากนี่คือหนทางที่ใช่ รัฐบาลก็ต้องกล้าตัดสินใจ กล้าแสดงภาวะผู้นำ และสื่อสารกับประชาชนให้ชัดเจนในภาวะวิกฤต

แต่หากยังบริหารแบบตามใบจองหมอพร้อมและระบบ MOPH IC วัคซีนก็จะถูกกระจายเป็นเบี้ยหัวแตก ถูกฉีดในกลุ่มคนที่ลงทะเบียนไว้ซึ่งกลุ่มใหญ่อยู่ต่างจังหวัดที่มีการระบาดน้อย ทำให้วัคซีนที่มีค่ายิ่ง ไม่ถูกใช้เพื่อดับไฟโควิดในจุดสำคัญ ส่วนวัคซีนซิโนแวคที่มีมาเสริมก็กระจายไปทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ใครที่ลงหมอพร้อมไว้ หากยินดีรับ sinovac ก็รับไป หากไม่ยินดีก็ต้องรอ เพราะวัคซีนแอสตร้าเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในวันนี้ที่เรามีในการยุติการระบาดในพื้นที่สีแดง

นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเอาการเมืองออกจากวัคซีน หยุดการที่ สส.แต่ละจังหวัดเข้ามาตอดขอวัคซีน หรือ จัดสรรลงในจังหวัดที่หวังเก็บคะแนนเพื่อการเลือกตั้งที่ใกล้จะถึง มิถุนายนคือเดือนชี้อนาคต หากควบคุมการระบาดไม่อยู่ กรุงเทพอาจต้องล็อคดาวน์เป็นเมืองร้าง การระบาดอาจลามไปทั่วประเทศ เช่นเดียวกับมาเลเซีย

“กระสุนมีจำกัด หยุดระบาดโควิดให้ตรงจุด ถมวัคซีนแอสตร้าหมดหน้าตักลงที่กรุงเทพและปริมณฑล 3 จังหวัด (นนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี)” นี่คือข้อเสนอของชมรมแพทย์ชนบท ที่หวังว่ารัฐบาลและสังคมไทยจะร่วมผลักดันให้เป็นจริง

Adblock test (Why?)


แพทย์ชนบท ผุดข้อเสนอใหม่ เทวัคซีนแอสตร้าฯหมดหน้าตัก ที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล - มติชน
Read More

Sunday, May 30, 2021

เช็ค 'ติดเชื้อโควิด 19' วันนี้ ชลบุรีวุ่นคลัสเตอร์บางทราย-เสียชีวิตพุ่งสะสม 28 ราย - กรุงเทพธุรกิจ

31 พฤษภาคม 2564

267

เช็คอัพเดท "ติดเชื้อโควิด 19" วันนี้ ชลบุรีพบรายใหม่-เสียชีวิตพุ่งสะสม 28 ราย วุ่นคลัสเตอร์บางทราย ค้นหาเชิงรุก 1,093 ราย

สถานการณ์ "ติดเชื้อโควิด 19" ประจำวัน 31 พฤษภาคม 2564 เวลา 06.30 น.
โควิดวันนี้ มีรายงานจังหวัดชลบุรี ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 62 ราย ยอดสะสม 4,669 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย เพิ่มสะสมเป็น 28 ราย


1. Cluster ตลาดกลางรัตนากร 4 ราย
2. Cluster ตลาดใหม่ 1 ราย
3. ชุมชนที่พักอาศัยของคนต่างด้าวและชาวไทย ในตำบลบางทราย 37 ราย (จากการตรวจเชิงรุก 811 ราย)
4. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (ในครอบครัว เชื่อมโยงจาก กทม.) 1 ราย

5. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
5.1 ในครอบครัว 8 ราย
5.2 จากที่ทำงาน 1 ราย
6. ผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน ซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 3 ราย
7. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 7 ราย

วันนี้ได้รับรายงานการค้นหาผู้สัมผัสทั้งหมดจำนวน 151 ราย, ค้นหาเชิงรุกเบื้องต้น อีกจำนวน 1,093 ราย และอยู่ระหว่างการรอรับรายงานการค้นหาเชิงรุกเพิ่มเติม

จังหวัดชลบุรีจะยังคงดำเนินการค้นหาผู้สัมผัส และค้นหาเชิงรุกอย่างเข้มข้น เพื่อนำมาตรวจหาเชื้อโควิด-19 และนำมารักษาไม่ให้แพร่ระบาดต่อไป

การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ เริ่มจะแหล่งสถานบันเทิง สู่ครอบครัว มาสู่เพื่อนร่วมงาน มาสู่ชุมชนที่พักอาศัยพนักงาน แรงงาน ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงมาจากการทานข้าวร่วมกัน หรือมีกิจกรรมใกล้ชิด สังสรรค์แม้จะเป็นเพียงกลุ่มเล็ก 2-3 คนในเพื่อนสนิท

ขณะนี้มีการระบาดในชุมชนในตำบลบางทราย ซึ่งเป็นที่พักของพนักงานสถานประกอบการ ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างด้าว จำนวนผู้ติดเชื้อ 117 ราย จะดำเนินค้นหาเชิงรุกต่อเนื่อง กักตัวผู้สัมผัส ทั้งในชุมชน เชื่อมโยงสถานที่ทำงาน เพื่อป้องกันการระบาดในวงกว้าง และจะพิจารณาล๊อคดาวด์พื้นที่บางส่วนในชุมชนมีผู้ติดเชื้อมาก พร้อมทั้งรีบปูพรมฉีดวัคซีน พื้นที่ชุมชนส่วนที่เหลือภายใน 2-3 วันนี้ ขอความร่วมมือให้สถานประกอบการตรวจสอบการรับการตรวจเชิงรุกของพนักงานที่พักในชุมชนแห่งนี้ หากยังไม่ได้รับการตรวจหาเชื้อ แจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองชลบุรี

เริ่มมีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน ( Cluster ) ในโรงงาน 4 แห่ง และตลาด 2 แห่ง แคมป์คนงานก่อสร้าง 2 แห่ง และชุมชนที่มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ดังกล่าว

ขอความร่วมมือ ในสถานประกอบมาตรการดังนี้
1. ไม่สังสรรค์ ไม่ตั้งวงดื่มเหล้า
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน

สถานที่พักพนักงานสถานประกอบการ อาจจะเป็นที่หอพักที่สถานประกอบการหาให้ หรือหอพักที่ไปเช่าอยู่เอง ซึ่งเป็นที่อยู่ของพนักงานหลายๆบริษัทอยู่ปะปนกัน ซึ่งจะเป็นแหล่งกระจายเชื้อข้ามบริษัท เมื่อเริ่มมีกระระบาดในบริษัท ขอความร่วมมือพนักงานบริษัทเคร่งครัดในมาตรการส่วนบุคคล อยู่ห่างกัน ไม่ข้ามไปคุยกันห้องพักห้องอื่น ไม่ทานข้าวร่วมกัน ไม่สังสสรค์ อสม เจ้าหน้าที่ ประชาชน ช่วยกันสอดส่อง

อาจมีผู้ที่ยังไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อปะปนอยู่ในสังคม โดยที่เราไมทราบ จึงขอให้เคร่งครัดในมาตราการอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะสุขอนามัยส่วนบุคคล เชื้อเข้าทางจมูกปากตา ต้องไม่จับหน้าโดยไม่ล้างมืออย่างเด็ดขาด สวมแมสก์ตลอดเวลา

สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ แม้การตรวจครั้งแรกจะไม่พบเชื้อ แต่มีหลายๆ รายตรวจพบเชื้อในครั้งที่ 2 ระหว่างการกักตัว 14 วัน

162241931188

Adblock test (Why?)


เช็ค 'ติดเชื้อโควิด 19' วันนี้ ชลบุรีวุ่นคลัสเตอร์บางทราย-เสียชีวิตพุ่งสะสม 28 ราย - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

ยังอ่วม! คุกบางขวาง นักโทษติดโควิด 1,350 ราย คลองเปรม 399 ราย - TNN24

กรมราชทัณฑ์ โดยศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คุกบางขวาง นักโทษติดโควิดวันนี้ 1,350 ราย คลองเปรม 399 ราย

30 พฤษภาคม 2564 เวลา 14.00 น. กรมราชทัณฑ์ โดยศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ (ศบค.รท.) เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2564 เวลา 18.00 น.) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 1,902 ราย รักษาหาย 1,140 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 14,714 ราย

ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ขอเรียน ว่าสถานการณ์ในภาพรวมชัดเจนและดีขึ้น จากการตรวจสอบการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังยืนยันว่าเรือนจำ 116 แห่ง ไม่มีผู้ติดเชื้อ และได้ปรับมาตรการห้องกักกันโรคขึ้น ส่วนเรือนจำที่พบการแพร่ระบาดได้พ้นสภาวะแล้ว 2 แห่ง คือ เรือนจำกลางเชียงใหม่และเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ส่วนอีก 8 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯและนนทบุรี มีจำนวนผู้หายแล้วเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน คงเหลือเพียง 3 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดสงขลา เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา และทัณฑสถานวัยหนุ่มกลางที่ยังอยู่ในระหว่างการจัดระบบโรงพยาบาลสนาม

อย่างไรก็ตาม เรือนจำกลางบางขวาง พบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดจำนวน 1,350 ราย มากสุดในวันนี้ รองลงมาคือเรือนจำกลางคลองเปรม 399 ราย เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา 56 ราย ทัณฑสถานบำบัดพิเศษ 55 ราย และเรือนจำจังหวัดสงขลา 42 ราย

สำหรับ ข้อสงสัยเกี่ยวกับการรายงานยอดผู้ติดเชื้อของ ศบค.รท.ที่มีความแตกต่างจากยอดของ ศบค.นั้น กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่าได้มีการประสานกับกรมควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด โดยได้มีการปรับระบบการ จัดเก็บข้อมูล รูปแบบข้อมูล และระยะเวลาในการจัดส่งข้อมูล เพื่อให้รายงานสอดคล้องและเป็นไปในแนวทาง เดียวกับ ศบค.ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ยังอ่วม! คุกบางขวาง นักโทษติดโควิด 1,350 ราย คลองเปรม 399 ราย

Adblock test (Why?)


ยังอ่วม! คุกบางขวาง นักโทษติดโควิด 1,350 ราย คลองเปรม 399 ราย - TNN24
Read More

กรมราชทัณฑ์เผยมีผู้ต้องขังติดโควิด-19 รายใหม่ 1,902 ราย หายป่วยเพิ่ม 1,140 ราย - ผู้จัดการออนไลน์

กรมราชทัณฑ์ โดยศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ (ศบค.รท.) เปิดเผยสถานการณ์โควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2564 เวลา 18.00 น.) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 1,902 ราย รักษาหาย 1,140 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 14,714 ราย

ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน สถานการณ์ในภาพรวมชัดเจนและดีขึ้น จากการตรวจสอบการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง ยืนยันว่า เรือนจำ 116 แห่ง ไม่มีผู้ติดเชื้อ และได้ปรับมาตรการห้องกักกันโรคขึ้น ส่วนเรือนจำที่พบการแพร่ระบาดได้พ้นสภาวะแล้ว 2 แห่ง คือ เรือนจำกลางเชียงใหม่ และเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ส่วนอีก 8 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ และนนทบุรี มีจำนวนผู้หายแล้วเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน คงเหลือเพียง 3 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดสงขลา เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา และทัณฑสถานวัยหนุ่มกลางที่ยังอยู่ในระหว่างการจัดระบบโรงพยาบาลสนาม

สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับการรายงานยอดผู้ติดเชื้อของ ศบค.รท. ที่มีความแตกต่างจากยอดของ ศบค. นั้น กรมราชทัณฑ์ได้มีการประสานกับกรมควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด โดยได้มีการปรับระบบการจัดเก็บข้อมูล รูปแบบข้อมูล และระยะเวลาในการจัดส่งข้อมูล เพื่อให้รายงานสอดคล้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกับ ศบค. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Adblock test (Why?)


กรมราชทัณฑ์เผยมีผู้ต้องขังติดโควิด-19 รายใหม่ 1,902 ราย หายป่วยเพิ่ม 1,140 ราย - ผู้จัดการออนไลน์
Read More

สธ.เพิ่มสิทธิรักษาฟรีในรพ.เอกชน! ผู้เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีน - โพสต์ทูเดย์

สธ.เพิ่มสิทธิรักษาฟรีในรพ.เอกชน! ผู้เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีน

วันที่ 30 พ.ค. 2564 เวลา 15:09 น.

สธ.เพิ่มสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนโควิด 19 เพื่อให้ ประชาชนสามารถเข้ารักษาได้ฟรีในสถานพยาบาลเอกชน

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ฉบับที่ 1 และ 2 ให้ผู้ป่วยด้วยโรคโควิด 19 สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลอย่างทั่วถึง และเท่าเทียมนั้น

ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้แก่ประชาชนชาวไทยผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการนำพาประเทศให้ก้าวพ้นวิกฤติการณ์การระบาดของโรค แต่ด้วยสุขภาพร่างกายของแต่ละบุคคลย่อมแตกต่างกัน อีกทั้งการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ในครั้งนี้มีผู้เข้ารับบริการนับล้านราย จึงอาจจะมีบางรายที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน

กรม สบส.จึงดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศฯฉบับก่อนหน้า ออกเป็นประกาศฉบับที่ 3 กำหนดให้สถานพยาบาลเอกชน ให้บริการแก่บุคคลที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เฉกเช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคโควิด 19 โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย

สำหรับ ประกาศ “หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19” (ฉบับที่ 3) นั้น ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เว้นแต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากอาการแพ้วัคซีนหรืออาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการฉีดวัคซีน ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป

ซึ่งจะส่งผลให้ ประชาชนที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 จากสถานพยาบาลเอกชนที่รัฐกำหนด สามารถเข้ารับการดูแลรักษาได้ฟรีจากสถานพยาบาลเอกชน

ซึ่งนอกจากการเพิ่มสิทธิเบิกจ่ายในข้างต้นแล้ว ประกาศฯ ฉบับที่ 3 ยังได้เพิ่มสิทธิในการเบิกจ่ายค่าพาหนะขนส่งผู้ป่วยทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้การดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 เป็นไปอย่างราบรื่น และเหมาะสมกับสภาวะการณ์ในปัจจุบันด้วย

Adblock test (Why?)


สธ.เพิ่มสิทธิรักษาฟรีในรพ.เอกชน! ผู้เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีน - โพสต์ทูเดย์
Read More

สธ.เพิ่มสิทธิเบิกจ่ายอาการแพ้วัคซีนในรพ.เอกชน - เนชั่นทีวี สถานีข่าว 24 ชั่วโมง

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ฉบับที่ 1 และ 2 ให้ผู้ป่วยด้วยโรคโควิด 19 สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม 

แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้แก่ประชาชนชาวไทยผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการนำพาประเทศให้ก้าวพ้นวิกฤติการณ์การระบาดของโรค แต่ด้วยสุขภาพร่างกายของแต่ละบุคคลย่อมแตกต่างกัน อีกทั้งการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ในครั้งนี้มีผู้เข้ารับบริการนับล้านราย จึงอาจจะมีบางรายที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน 

กรม สบส.จึงดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศฯฉบับก่อนหน้า ออกเป็นประกาศฉบับที่ 3 กำหนดให้สถานพยาบาลเอกชน ให้บริการแก่บุคคลที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เฉกเช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคโควิด 19 โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย 

นายแพทย์ธเรศฯ กล่าวต่อว่า สำหรับ ประกาศ "หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19" (ฉบับที่ 3) นั้น ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เว้นแต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากอาการแพ้วัคซีนหรืออาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการฉีดวัคซีน ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้ ประชาชนที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 จากสถานพยาบาลเอกชนที่รัฐกำหนด สามารถเข้ารับการดูแลรักษาได้ฟรีจากสถานพยาบาลเอกชน ซึ่งนอกจากการเพิ่มสิทธิเบิกจ่ายในข้างต้นแล้ว ประกาศฯ ฉบับที่ 3 ยังได้เพิ่มสิทธิในการเบิกจ่ายค่าพาหนะขนส่งผู้ป่วยทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้การดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 เป็นไปอย่างราบรื่น และเหมาะสมกับสภาวะการณ์ในปัจจุบันด้วย

เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV

Adblock test (Why?)


สธ.เพิ่มสิทธิเบิกจ่ายอาการแพ้วัคซีนในรพ.เอกชน - เนชั่นทีวี สถานีข่าว 24 ชั่วโมง
Read More

สาหัส! ป่วยโควิด-19 เมืองแปดริ้วยอดวันนี้ทะลุ 201 ราย ขณะนายก อบจ.ปูดยาต้านไวรัสใกล้หมด - ผู้จัดการออนไลน์



ฉะเชิงเทรา - สาหัส! ป่วยโควิด-19 เมืองแปดริ้วทะลุ 201 รายต่อวัน ทำลายสถิติสูงสุดวันที่ 18 พ.ค. ขณะนายก อบจ.ปูดแม้แต่ยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ที่ได้รับจัดสรรยังใกล้หมดสต๊อก ทำสถานการณ์ส่อเค้ารุนแรง วอนรัฐเปิดทางท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนฉีดให้ประชาชน 

วันนี้ (30 พ.ค.)​ ศูนย์ข้อมูลข่าวสารโควิด-19 จ.ฉะเชิงเทรา รายงานสถานการณ์​การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในพื้นที่ว่ายังมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนมากถึง 201 ราย ทำลายสถิติการติดเชื้อสูงสุดเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมาที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 147 ราย และยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย

โดยพบเป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำ จำนวน 97 ราย และผู้ป่วยภายนอก 104 ราย ส่งผลให้ จ.ฉะเชิงเทรา มีจำนวนผู้ป่วยสะสมจากการแพร่ระบาดระลอกล่าสุดมากถึง 1,496 ราย เสียชีวิตแล้ว จำนวน 10 ราย และยังที่มีผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการรักษา 964 ราย


ขณะที่ นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา เผยภายหลังการร่วมหารือกับนายแพทย์มณเทียร คณาสวัสดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลหลายแห่งในพื้นที่เพื่อหาทางลดการแพร่ระบาดของโรคว่า ขณะนี้ยาฟาวิพิราเวียร์ หรือยาต้านไวรัสที่จะนำมาใช้ในการักษาโรคโควิด-19 ใน จ.ฉะเชิงเทรา เริ่มมีปริมาณลดน้อยลงจนสวนทางกับจำนวนผู้ป่วยที่มากกว่า 1,000 คน

พร้อมยังฝากวิงวอนไปยังรัฐบาลให้ช่วยจัดสรรยาฟาวิพิราเวียร์ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา ในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากสถานการณ์การระบาดอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเป็นอยู่ของชาว จ.ฉะเชิงเทรา

“อบจ.ฉะเชิงเทรา สามารถให้การสนับสนุนหน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ได้เพียงในเชิงของการป้องกัน เช่น การสนับสนุนน้ำยาฆ่าเชื้อ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และหน้ากากอนามัย โดยไม่สามารถที่จะใช้เงินงบประมาณท้องถิ่นมาสนับสนุนในเรื่องการจัดซื้อยาต้านไวรัส หรือวัคซีนในการป้องกันโรคได้เพราะไม่มีอำนาจหน้าที่”


ประกอบกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายังไม่รับวินิจฉัยกรณีปรึกษาความเห็นทางฎหมายตามที่สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย และ สมาคม อปท.อื่นๆ รวม 3 สมาคมขอให้พิจารณาข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ด้วยตนเอง

อีกทั้งคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินตามความเห็นของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจากหนังสือด่วนที่สุด ที่
มท.0808.2/ว.252 ยังชี้ว่า อปท. ไม่สามารถจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้เองจากผู้ผลิตโดยตรง 

และยังมีหนังสือมาจาก นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ ผผ 0902/303 ลงวันที่ 1 ก.พ.2564 ว่าภาครัฐเท่านั้นที่จะดำเนินการจัดซื้อและบริหารวัคซีนกระจายวัคซีนตามแผนการบริหารจัดการวัคซีนได้


“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อปท. มีความพยายามที่จะจัดหาวัคซีนมาฉีดให้แก่พี่น้องประชาชน แต่อธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีคำสั่งห้ามไม่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยเด็ดขาด ซึ่งหากสามารถทำได้ อบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมที่จะจัดสรรงบประมาณในการหาซื้อวัคซีนฉีดให้แก่ประชาชนในทันที” นายกิตติ กล่าว


Adblock test (Why?)


สาหัส! ป่วยโควิด-19 เมืองแปดริ้วยอดวันนี้ทะลุ 201 ราย ขณะนายก อบจ.ปูดยาต้านไวรัสใกล้หมด - ผู้จัดการออนไลน์
Read More

ติดเชื้อยังพุ่ง! ชลบุรีโควิดคร่าชีวิตอีก 1 ป่วยเพิ่ม 90 ราย จาก 3 คลัสเตอร์-สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน - มติชน

ติดเชื้อยังพุ่ง! ชลบุรีโควิดคร่าชีวิตอีก 1 ป่วยเพิ่ม 90 ราย จาก 3 คลัสเตอร์-สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 30 พฤษภาคม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สสจ.ชลบุรี รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย และผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 90 ราย แบ่งเป็น

1. Cluster ตลาดกลางรัตนากร 23 ราย
2. Cluster บริษัท เซเลอเรส 8 ราย (ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ตรวจซ้ำครั้งที่2)
3. Cluster บริษัท โอคุมุระ 16 ราย (ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ตรวจซ้ำครั้งที่2)

4. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
4.1 ในครอบครัว 12 ราย
4.2 จากที่ทำงาน 8 ราย

5. ผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน ซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 11 ราย
6. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 12 ราย

สสจ.ชลบุรี ระบุว่า วันนี้ได้รับรายงานการค้นหาผู้สัมผัสทั้งหมดจำนวน 45 ราย, ค้นหาเชิงรุกเบื้องต้น อีกจำนวน 338 ราย และอยู่ระหว่างการรอรับรายงานการค้นหาเชิงรุกเพิ่มเติม

การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ เริ่มจะแหล่งสถานบันเทิง สู่ครอบครัว มาสู่เพื่อนร่วมงาน มาสู่ชุมชนที่พักอาศัยพนักงาน แรงงาน ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงมาจากการทานข้าวร่วมกัน หรือมีกิจกรรมใกล้ชิด สังสรรค์แม้จะเป็นเพียงกลุ่มเล็ก 2-3 คนในเพื่อนสนิท

โดยเริ่มมีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน ( Cluster ) ในโรงงาน 4 แห่ง และตลาด 2 แห่ง แคมป์คนงานก่อสร้าง 2 แห่ง และชุมชนที่มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดย ขอความร่วมมือ ในสถานประกอบมาตรการดังนี้

1. ไม่สังสรรค์ ไม่ตั้งวงดื่มเหล้า
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน

ทั้งนี้ สถานที่พักพนักงานสถานประกอบการ อาจจะเป็นที่หอพักที่สถานประกอบการหาให้ หรือหอพักที่ไปเช่าอยู่เอง ซึ่งเป็นที่อยู่ของพนักงานหลายๆบริษัทอยู่ปะปนกัน ซึ่งจะเป็นแหล่งกระจายเชื้อข้ามบริษัท เมื่อเริ่มมีกระระบาดในบริษัท ขอความร่วมมือพนักงานบริษัทเคร่งครัดในมาตรการส่วนบุคคล อยู่ห่างกัน ไม่ข้ามไปคุยกันห้องพักห้องอื่น ไม่ทานข้าวร่วมกัน ไม่สังสสรค์ อสม เจ้าหน้าที่ ประชาชน ช่วยกันสอดส่อง

สสจ.ชลบุรี แนะว่า อาจมีผู้ที่ยังไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อปะปนอยู่ในสังคม โดยที่เราไม่ทราบ จึงขอให้เคร่งครัดในมาตราการอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะสุขอนามัยส่วนบุคคล เชื้อเข้าทางจมูกปากตา ต้องไม่จับหน้าโดยไม่ล้างมืออย่างเด็ดขาด สวมแมสก์ตลอดเวลา พยายามออกจากบ้านให้น้อยลง อยู่ห่างกัน ล้างมือบ่อยๆ

สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ แม้การตรวจครั้งแรกจะไม่พบเชื้อ แต่มีหลายๆ รายตรวจพบเชื้อในครั้งที่ 2 ระหว่างการกักตัว 14 วัน

นอกจากนี้ เมื่อเวลา 22.45 น. วันที่ 29 พฤาภาคมที่ผ่านมา สสจ.ชลบุรี ยังประกาศสถานที่เสี่ยงจังหวัดชลบุรี ฉบับที่ 107 แจ้งเตือนข้อมูลสถานที่เสี่ยง ตลอดนัดหินเพิง(ตลาดนัดทางรถไฟบางพระ) โดยมีรายละเอียดดังนี้

Adblock test (Why?)


ติดเชื้อยังพุ่ง! ชลบุรีโควิดคร่าชีวิตอีก 1 ป่วยเพิ่ม 90 ราย จาก 3 คลัสเตอร์-สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน - มติชน
Read More

ฉีดวัคซีนโควิด "สาธารณสุข" ประกาศเพิ่มสิทธิเบิกจ่ายค่ารักษาเกิดอาการแพ้-อาการไม่พึงประสงค์ - ฐานเศรษฐกิจ

"สาธารณสุข" ออกประกาศค่าใช้จ่ายโรคโควิด-19 ฉบับ 3 เพิ่มสิทธิเบิกจ่ายรักษาผู้ที่เกิดอาการแพ้วัคซีนโควิด-เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ย้ำ ปชช.สามารถเข้ารับการดูแลรักษาได้ฟรีจากสถานพยาบาลเอกชน

30 พฤษภาคม 2564 นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ฉบับที่ 1 และ 2 ให้ผู้ป่วยด้วยโรคโควิด 19 สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้แก่ประชาชนชาวไทยผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการนำพาประเทศให้ก้าวพ้นวิกฤติการณ์การระบาดของโรค แต่ด้วยสุขภาพร่างกายของแต่ละบุคคลย่อมแตกต่างกัน

อีกทั้งการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ในครั้งนี้มีผู้เข้ารับบริการนับล้านราย จึงอาจจะมีบางรายที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน กรม สบส.จึงดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศฯฉบับก่อนหน้า ออกเป็นประกาศฉบับที่ 3 กำหนดให้สถานพยาบาลเอกชน ให้บริการแก่บุคคลที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เฉกเช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคโควิด 19 โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย

Adblock test (Why?)


ฉีดวัคซีนโควิด "สาธารณสุข" ประกาศเพิ่มสิทธิเบิกจ่ายค่ารักษาเกิดอาการแพ้-อาการไม่พึงประสงค์ - ฐานเศรษฐกิจ
Read More

ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในเรือนจำดีขึ้น แต่บางขวางยังหนักเจออีก 1,350 ราย - ไทยโพสต์

30 พฤษภาคม 2564  ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ (ศบค.รท.) รายงานเมื่อเวลา 14.00 น. เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2564 เวลา 18.00 นาฬิกา) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 1,902 ราย รักษาหาย 1,140 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 14,714 ราย

ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ขอเรียนว่าสถานการณ์ในภาพรวมชัดเจนและดีขึ้น จากการตรวจสอบการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังยืนยันว่าเรือนจำ 116 แห่ง ไม่มีผู้ติดเชื้อ และได้ปรับมาตรการห้องกักกันโรคขึ้น ส่วนเรือนจำที่พบการแพร่ระบาดได้พ้นสภาวะแล้ว 2 แห่ง คือ เรือนจำกลางเชียงใหม่และเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ส่วนอีก 8 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯและนนทบุรี มีจำนวนผู้หายแล้วเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน คงเหลือเพียง 3 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดสงขลา เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา และทัณฑสถานวัยหนุ่มกลางที่ยังอยู่ในระหว่างการจัดระบบโรงพยาบาลสนาม

สำหรับ ข้อสงสัยเกี่ยวกับการรายงานยอดผู้ติดเชื้อของ ศบค.รท.ที่มีความแตกต่างจากยอดของ ศบค.นั้น กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่าได้มีการประสานกับกรมควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด โดยได้มีการปรับระบบการจัดเก็บข้อมูล รูปแบบข้อมูล และระยะเวลาในการจัดส่งข้อมูล เพื่อให้รายงานสอดคล้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกับ ศบค.ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ในวันนี้พบผู้ต้องขังติดโควิด รายใหม่ 5  เรือนจำ คือเรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งพบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดจำนวน 1,350 ราย มากสุดในวันนี้ รองลงมาคือเรือนจำกลางคลองเปรม 399 ราย เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา 56 ราย ทัณฑสถานบำบัดพิเศษ 55 ราย และเรือนจำจังหวัดสงขลา 42 ราย

Adblock test (Why?)


ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในเรือนจำดีขึ้น แต่บางขวางยังหนักเจออีก 1,350 ราย - ไทยโพสต์
Read More

โคราช เผยไทม์ไลน์ หญิงป่วยโควิดดับ ไม่มีโรคประจำตัว-ติดจากลูกเขย - ข่าวสด

โคราช เผย โควิดวันนี้ พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม ข่าวเศร้า หญิงวัย 61 ปี ติดเชื้อเสียชีวิต รายที่ 11 ของจังหวัด เผยไทม์ไลน์ ติดจากลูกเขย-ไม่มีโรคประจำตัว

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 พ.ค.2564 ที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด นครราชสีมา นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รอง ผวจ.นครราชสีมา ในฐานะรองประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นพ.วิญญู จันทร์เนตร รองนายแพทย์ สสจ.นครราชสีมาและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฐานะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ร่วมประชุมครั้งที่ 94/2564 ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ในระเบียบวาระการดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม การแพร่ระบาดโรคติดต่อในพื้นที่ จ.นครราชสีมา การติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการและข้อสั่งการของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ

นพ.วิญญู ชี้แจงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในพื้นที่ 32 อำเภอ พบผู้ป่วยระลอกใหม่ 3 ราย อยู่ในพื้นที่ อ.ขามสะแกแสง 2 ราย และ อ.ครบุรี 1 ราย รวมยอดสะสม 937 ราย เสียชีวิต 11 ราย รักษาหาย 770 ราย และยังรักษาอยู่ 156 ราย ทั้งนี้ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้ป่วยลำดับที่ 687 หญิงอายุ 61 ปี ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง ซึ่งเป็นผู้ป่วยเสียชีวิตรายที่ 11 ของ จ.นครราชสีมา

โคราช เผย โควิดวันนี้ พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม ข่าวเศร้า หญิงวัย 61 ปี ติดเชื้อเสียชีวิต รายที่ 11 ของจังหวัด

โคราช เผย โควิดวันนี้ พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม ข่าวเศร้า หญิงวัย 61 ปี ติดเชื้อเสียชีวิต รายที่ 11 ของจังหวัด

สำหรับไทม์ไลน์วันที่ 22-29 เม.ย. อยู่บ้านเลี้ยงหลาน วันที่ 30 เม.ย. รับแจ้งลูกเขยติดโควิด-19 (ผู้ป่วยลำดับที่ 594) แต่ผู้ป่วยไม่ได้เดินทางไปไหน วันที่ 1 พค. ผู้ป่วยพร้อมลูกสาวและหลานเดินทางไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) นครราชสีมา โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวและทุกคนสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน ผลครั้งแรกทุกคนไม่พบเชื้อ

วันที่ 3 พ.ค.64 ผู้ป่วยมีอาการไข้ ไอ ปวดศีรษะ ทานยาอยู่ที่บ้านพัก, วันที่ 5 พ.ค.64 เวลา 13.00 น. ทั้งหมดได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อซ้ำที่ รพ.มทส. เวลา 20.00 น. ผลยืนยันพบเชื้อ, วันที่ 11 พ.ค.64 อาการทรุดลง จึงเคลื่อนย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อต้านเชื้อไวรัส แต่ยังมีอาการปอดอักเสบจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เบื้องต้นไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด จึงขอให้กลุ่มเสี่ยงทั้งผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังมารับบริการฉีดวัคซีนโดยเร็ว

Adblock test (Why?)


โคราช เผยไทม์ไลน์ หญิงป่วยโควิดดับ ไม่มีโรคประจำตัว-ติดจากลูกเขย - ข่าวสด
Read More

Saturday, May 29, 2021

ชลบุรีโควิดยังระบาดหนักติดเชื้อเพิ่ม 90คน คลัสเตอร์ตลาดกลางรัตนากร มาแรง ไทยโพสต์ - ไทยโพสต์


30 พ.ค. 2564 สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 90 ราย

1. Cluster ตลาดกลางรัตนากร 23 ราย

2. Cluster บริษัท เซเลอเรส 8 ราย (ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ตรวจซ้ำครั้งที่2)

3. Cluster บริษัท โอคุมุระ 16 ราย (ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ตรวจซ้ำครั้งที่2)

4. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
   4.1 ในครอบครัว 12 ราย
   4.2 จากที่ทำงาน 8 ราย

5. ผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน ซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 11 ราย

6. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 12 ราย

วันนี้ได้รับรายงานการค้นหาผู้สัมผัสทั้งหมดจำนวน 45 ราย, ค้นหาเชิงรุกเบื้องต้น อีกจำนวน 338 ราย และอยู่ระหว่างการรอรับรายงานการค้นหาเชิงรุกเพิ่มเติม
30 พฤษภาคม 2564 เวลา 06.30 น.

Adblock test (Why?)


ชลบุรีโควิดยังระบาดหนักติดเชื้อเพิ่ม 90คน คลัสเตอร์ตลาดกลางรัตนากร มาแรง ไทยโพสต์ - ไทยโพสต์
Read More

เปิดไทม์ไลน์หญิง 61 ปี เหยื่อโควิดรายที่ 11 โคราช ส่วนใหญ่อยู่บ้าน คาดรับเชื้อจากลูกเขย - มติชน

เปิดไทม์ไลน์หญิง 61 ปี เหยื่อโควิดรายที่ 11 โคราช ส่วนใหญ่อยู่บ้าน คาดรับเชื้อจากลูกเขย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 พฤษภาคม ที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รอง ผวจ.นครราชสีมา ในฐานะรองประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาพร้อมนายแพทย์วิญญู จันทร์เนตร รองนายแพทย์ สสจ.นครราชสีมาและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฐานะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาร่วมประชุมครั้งที่ 94/2564 ผ่านเครือข่าย (Web Conference) โปรแกรม ZOOM ในระเบียบวาระการดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม การแพร่ระบาดโรคติดต่อในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา การติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการและข้อสั่งการของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ

นพ.วิญญู รองนายแพทย์ สสจ.นครราชสีมา ชี้แจงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ 32 อำเภอ พบผู้ป่วยระลอกใหม่ 3 ราย อยู่ในพื้นที่ อ.ขามสะแกแสง 2 ราย และ อ.ครบุรี 1 ราย รวมยอดสะสม 937 ราย เสียชีวิต 11 ราย รักษาหาย 770 ราย และยังรักษาอยู่ 156 ราย ทั้งนี้ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้ป่วยลำดับที่ 687 หญิงอายุ 61 ปี ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง ซึ่งเป็นผู้ป่วยเสียชีวิตรายที่ 11 ของ จ.นครราชสีมา

สำหรับไทม์ไลน์ผู้เสียชีวิตนั้น วันที่ 22-29 เม.ย อยู่บ้านเลี้ยงหลาน วันที่ 30 เม.ย รับแจ้งลูกเขยติดเชื้อโควิด-19 (ผู้ป่วยลำดับที่ 594) แต่ผู้ป่วยไม่ได้เดินทางไปไหน วันที่ 1 พค. ผู้ป่วยพร้อมลูกสาวและหลานเดินทางไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) นครราชสีมา โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวและทุกคนสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน ผลครั้งแรกทุกคนไม่พบเชื้อ

จากนั้น วันที่ 3 พค. ผู้ป่วยมีอาการไข้ ไอ ปวดศีรษะ ทานยาอยู่ที่บ้านพัก วันที่ 5 พค. เวลา 13.00 น. ทั้งหมดได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อซ้ำที่ รพ.มทส. เวลา 20.00 น. ผลยืนยันพบเชื้อ วันที่ 11 พค. ก่อนอาการทรุดลง จึงเคลื่อนย้ายมารักษาที่ รพ.มหาราช นครราชสีมา แม้ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อต้านเชื้อไวรัส แต่ยังมีอาการปอดอักเสบจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เบื้องต้นไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด จึงขอให้กลุ่มเสี่ยงทั้งผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังมารับบริการฉีดวัคซีนโดยเร็ว

QR Code LINE @Matichon

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่

LINE @Matichon

บทความก่อนหน้านี้เลขาสภาฯ แจงปมวัคซีนไม่เกี่ยวสภาฯ แพทย์จัดสรรตามอายุสมาชิก ไม่มีเลือกปฏิบัติ
บทความถัดไป‘สมศักดิ์’ เร่งดันร่างพ.ร.บ.พืชกระท่อม เข้าครม. กฤษฎีกาปรับเพิ่มอีก30 มาตรา เพื่อรัดกุม

matichon

Adblock test (Why?)


เปิดไทม์ไลน์หญิง 61 ปี เหยื่อโควิดรายที่ 11 โคราช ส่วนใหญ่อยู่บ้าน คาดรับเชื้อจากลูกเขย - มติชน
Read More

นักโทษติดโควิดเพิ่มวันนี้ 1670 ราย - เรือนจำเชียงใหม่เผยรักษาผู้ต้องขังวันเดียวหาย 1702 ราย - เรื่องเล่าเช้านี้

Adblock test (Why?)


นักโทษติดโควิดเพิ่มวันนี้ 1670 ราย - เรือนจำเชียงใหม่เผยรักษาผู้ต้องขังวันเดียวหาย 1702 ราย - เรื่องเล่าเช้านี้
Read More

ศบค.เปิดจุดระบาดคลัสเตอร์ 11 จังหวัด เช็กเลยที่ไหนบ้าง? - TNN24

ศบค.เปิดสถานที่การเกิดระบาดในจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 11 จังหวัด แนวโน้มผู้ติดเชื้อยังคงตัว และพบในกลุ่มก้อนที่ต่อเนื่องจากกลุ่มก้อนเดิม เช่น โรงงาน แคมปักอสร้าง ชุมชนแออัด ชุมชนรอบโรงงาน และในเรือนจำ

วันนี้ (29 พ.ค.64) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,803 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,421 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 629 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 2,702 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 51 ราย มาจากกัมพูชา 47 ราย ซึ่งยังคงพบเดินทางมาจากช่องทางธรรมชาติ 1 ราย ซาอุดิอาระเบีย 3 ราย และ เซอร์เบีย 1 ราย

วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 34 ราย เพศชาย 18 ราย หญิง 16 ราย อายุระหว่าง 35-87 ปี ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว โดย 21 รายเป็นผู้ป่วยในกรุงเทพมหานคร

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ ล่าสุดอยู่ที่ 149,779 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 102,311 ราย เพิ่มขึ้น 4,439 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 988 ราย

ขณะที่ สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 170,126,628 ราย เสียชีวิต 3,537,568 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 34,022,657 ราย อันดับสอง อินเดีย27,719,431 ราย อันดับสาม บราซิล 16,392,657 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,646,897 ราย และอันดับห้า ตุรกี 5,228,322 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 84

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. กล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อภาพรวมลดลง ส่วนประเทศยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง แนวโน้มคงตัวทั้งกทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัด โดยยังเป็นการพบในกลุ่มก้อนที่ต่อเนื่องจากกลุ่มก้อนเดิม คือ โรงงาน แคมป์ก่อสร้าง ชุมชนแออัด ชุมชนรอบโรงงาน และในเรือนจำ นอกจากนี้ยังเริ่มพบในโรงงานอื่นๆ โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานต่างด้าว

สำหรับสถานที่การเกิดระบาดในจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ได้แก่

กรุงเทพมหานคร

- เขตบางกะปิ ตลาดบางกะปิและชุมชนรอบๆ ชาวไทย เมียนมา กัมพูชา ลาว ผู้ป่วยรายใหม่ 7 ราย ยอดสะสมใน cluster ตลาดบางกะปิ 453 ราย แคมป์ก่อสร้าง 19 ราย

- เขตคลองเตย ชุมชนและตลอดคลองเตย ผู้ป่วยรายใหม่ 6 ยอดสะสมใน cluster 1,603 ราย

- เขตบางพลัด สวนหลวงพระราม 8 ผู้ป่วยรายใหม่ 11 ยอดสะสมใน cluster 54 ราย

- เขตพระนคร ปากคลองตลาด ชาวไทย เมียนมา ผู้ป่วยรายใหม่ 9 ราย ยอดสะสมใน cluster 15 ราย

ศบค. เปิดคลัสเตอร์ 11 จังหวัด

นนทบุรี

อ.เมืองนนทบุรี แคมป์ก่อสร้าง ผู้ป่วยรายใหม่ 122 ราย ยอดสะสมใน cluster 697 ราย

สมุทรปราการ

อ.เมืองสมุทรปราการ และกทม. โรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูปจากสัตว์น้ำ เนื้อสัตว์ ชาวไทยและเมียนมา ผู้ป่วยรายใหม่ 44 ราย ยอดสะสมใน cluster 278 ราย

ตาก

อ.วังเจ้า (บ้านผาผึ้ง) สัมผัสในชุมชน ผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย ยอดสะสมใน cluster 51 ราย

ประจวบคีรีขันธ์

อ.หัวหิน โรงงานสัปะระกระป๋อง ชาวไทย เมียนมา ผู้ป่วยรายใหม่ 11 ราย ยอดสะสมใน cluster 89 ราย

ระนอง

อ.เมืองระนอง แรงงานแพปลาชาวเมียนมา ผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย ยอดสะสมใน cluster 606 ราย

นราธิวาส

อ.ตากใบ สัมผัสในชุมชน ผู้ป่วยรายใหม่ 19 ราย ยอดสะสมใน cluster 134 ราย

ศบค. เปิดคลัสเตอร์ 11 จังหวัด

มหาสารคาม

อ.กันทรวิชัย มหาวิทยาลัยของรัฐ ผู้ป่วยรายใหม่ 11 ราย ยอดสะสมใน cluster 11 ราย (คลัสเตอร์ใหม่)

เพชรบุรี

- กระจายใน 10 จังหวัด โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์ ชาวไทย เมียนมา กัมพูชา อินเดีย จีน ผู้ป่วยรายใหม่ 30 ราย ยอดสะสมใน cluster 3,207 ราย

- เขาย้อย โรงงานผลิตรองเท้า ผู้ป่วยรายใหม่ 21 ราย ยอดสะสมใน cluster 21 ราย (คลัสเตอร์ใหม่)

ชลบุรี

อ.เมือง ชุมชนบางทราย ชาวไทย เมียนมา กัมพูชา ผู้ป่วยรายใหม่ 32 ราย ยอดสะสมใน cluster 32 ราย (คลัสเตอร์ใหม่)

ตรัง

อ.กันตัง โรงงานผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ ผู้ป่วยรายใหม่ 36 ราย ยอดสะสมใน cluster 36 ราย (คลัสเตอร์ใหม่)

ศบค. เปิดคลัสเตอร์ 11 จังหวัด

ศบค.สรุปสถานการณ์โควิด-19 ระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อภาพรวมลดลง ขณะที่ พบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องแนวโน้มคงตัวทั้งกทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัด โดยพบในกลุ่มก้อนที่ต่อเนื่องจากกลุ่มก้อนเดิม โรงงาน แคมปักอสร้าง ชุมชนแออัด ชุมชนรอบโรงงาน และในเรือนจำ รวมทั้ง เริ่มพบในโรงงานหลากหลายประเภทและขนาด ทั้ง ข้าว อาหารสด อาหารบรรจุ อิเลคทรอนิกส์ เสื้อผ้า อุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานต่างด้าว

นอกจากนี้ อัตราผู้ป่วยหนักค่อนข้างคงที่ พบผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง และยังพบผู้ติดเชื้อผ่านชายแดนของประเทศต่อเนื่อง โดยเฉพาะกัมพูชา

สำหรับสถานที่เสี่ยง ยังเป็นโรงงาน ตลาด ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ ชุมชนแออัด แคมป์ก่อสร้าง และชุมชนรอบๆ

อย่างไรก็ตาม สำหรับปัจจัยเสี่ยง ยังคงเป็นการสัมผัสคลุกคลีกัน ทั้งในสถานประกอบการ ที่พัก ชุมชน ครอบครัว การเดินทางศบค.เปิดจุดระบาดคลัสเตอร์ 11 จังหวัด เช็กเลยที่ไหนบ้าง?

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กทม.รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่แตะ 1 พันอีกรอบ โดยวันนี้พบ 1,054 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตคิดเป็น 1.10% สูงกว่าของประเทศ โดยพบผู้ติดเชื้อใน 43 คลัสเตอร์ และมีคลัสเตอร์ คือ แคมป์ก่อสร้างในเขตดินแดง, แคมป์ก่อสร้างในเขตวัฒนา, แคมป์ก่อสร้างในเขตปทุมวัน และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุคลองสามวา

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จากข้อมูลของกทม. พบมีจำนวนตลาดถึง 486 แห่ง มีชุมชนอาศัยอยู่ 2,069 ชุมชน ขณะที่แคมป์คนงานก่อสร้างพบ 409 แคมป์ กระจายไปแต่ละเขต ดังนั้น กทม.จึงต้องมีการบริหารสถานการณ์ผ่านกลุ่มเขต เพื่อเกิดการบูรณาการร่วมกันใน 50 เขต โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่มเขต ได้แก่ กรุงเทพฯ กลาง, ตะวันออก, ใต้, เหนือ และ กรุงธนบุรีใต้, เหนือ

ขณะที่การติดเชื้อในเรือนจำวันนี้พบ 2,702 ราย แบ่งเป็น เรือนจำบางขวาง 481 ราย เรือนจำนนทบุรี 1,969 ราย ทั้งนี้ มีการจัดพื้นที่ในเรือนจำเพื่อดูแลผู้ป่วยหนัก อย่างไรก็ตามยังมีสัญญาณเชิงบวก สามารถจัดการได้ โดยมีการการค้นหาเชิงรุกอย่างต่อเนื่องจึงทำให้พบเจอผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนใหญ่

Adblock test (Why?)


ศบค.เปิดจุดระบาดคลัสเตอร์ 11 จังหวัด เช็กเลยที่ไหนบ้าง? - TNN24
Read More

ราชทัณฑ์ เผยยอดผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดรายใหม่ 1117 - อาร์วายที9

ราชทัณฑ์ เผยยอดผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดรายใหม่ 1,117 ราย

นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ (ศบค.รท.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูล ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2564 เวลา 14.00 น. ว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 1,117 ราย รักษาหาย 1,939 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 15,445 ราย และตรวจพบผู้ติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดตรังเพิ่ม 1 แห่ง รวมเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ยังมีผู้ติดเชื้อ จำนวน 15 แห่ง

นายวีระกิตติ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกรมราชทัณฑ์ ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อสะสมจำนวน 22,101 ราย หายป่วย 6,404 ราย ปล่อยตัว/พ้นโทษ 249 ราย เสียชีวิต 8 ราย คงเหลือผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 15,445 ราย ใน 15 เรือนจำ/ทัณฑสถาน

โดยมีเรือนจำใหม่ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น คือ เรือนจำจังหวัดตรัง ที่มีการตรวจพบผู้ต้องขังติดเชื้อในระหว่างแยกกักตัว ตามมาตรการคัดกรองเชื้อโควิด-19 ของทางเรือนจำที่เป็นมาตรการเชิงรุก เพื่อไม่ให้มีการนำเชื้อจากภายนอกเข้าสู่เรือนจำชั้นใน


--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

Adblock test (Why?)


ราชทัณฑ์ เผยยอดผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดรายใหม่ 1117 - อาร์วายที9
Read More

โควิด-19คลัสเตอร์ใหม่ 'โรงงานถุงมือยางทางการแพทย์' - กรุงเทพธุรกิจ

29 พฤษภาคม 2564

191

ศบค.เผยโควิด-19ระบาดคลัสเตอร์ใหม่ 4 แห่ง 4 จังหวัด ตรังเกิดในโรงงานผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ ขณะที่กทม.ผุดใหม่อีก 4 คลัสเตอร์

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ในการแถลงสถานการณ์โควิด-19 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19(ศบค.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่4,803 ราย พบจากเฝ้าระวังในระบบรพ. 1,421 ราย การค้นเชิงรุก 629 ราย เรือนจำ 2,702 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 51 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ 2,702 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 149,779 ราย ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 34 ราย สะสม 988 ราย อัตราการเสียชีวิต 0.66% ขณะที่ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 4,439 ราย ยังเหลือรักษาอยู่ 46,480 ราย แบ่งไปในโรงพยาบาล(รพ.) 18,720 ราย ในรพ.สนามและอื่นๆ 27,760 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 1,221 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ใส่ท่อช่วยหายใจ 406 ราย

ผู้เสียชีวิต 34 ราย แบ่งเป็นเพศชาย 18 ราย หญิง 16 ราย อายุเฉลี่ย 35 - 87 ปี พบใน กรุงเทพฯ 21 ราย ปทุมธานี เชียงราย สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ราย ส่วนเพชรบุรี เพชรบูรณ์ นนทบุรี อยุธยา ราชบุรี สงขลา สระบุรี จังหวัดละ 1 ราย ขณะที่โรคประจำตัวปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ได้แก่ ความดันโลหิตสูง 20 ราย เบาหวาน 16 ราย ไขมันในเลือดสูง 10 ราย ไตเรื้อรัง 4 ราย โรคปอด หัวใจ อย่างละ 2 ราย โรคอ้วน โรคตับ หลอดเลือดสมอง อย่างละ 1 ราย และไม่มีโรคประจำตัว 5 ราย ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อมาจากคนในครอบครัว 16 ราย เพื่อนร่วมงาน 2 ราย ทำอาชีพเสี่ยง 5 ราย อาศัยหรือเดินทางไปในพื้นที่ระบาด 5 ราย ไปในที่คนหนาแน่น 1 รายและระบุไม่ชัดเจน 5 ราย

จํานวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 จังหวัดแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ 1,054 ราย สะสม 39,463 ราย สมุทรปราการ 215 รายสะสม 6,397 ราย นนทบุรี 186 ราย สะสม 6,576 ราย ชลบุรี 80 ราย สะสม 4,515 ราย ปทุมธานี 65 ราย สะสม 3,338 ราย เพชรบุรี 64 ราย สะสม 4,437 ราย สมุทรสาคร 43 ราย สะสม 2,441 ราย ตรัง 37 ราย สะสม 381 รายสงขลา 31 ราย สะสม 1,415 ราย และนครปฐม 26 ราย สะสม 1,255 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การติดเชื้อในเรือนจำวันนี้พบ 2,702 ราย สะสม 22,398 ราย ส่วนการติดเชื้อนอกเรือนจำ 2,050 ราย แบ่งเป็นจังหวัดอื่นๆ 461 ราย คิดเป็น 22% ในกทม.และปริมณฑล รวม 1,589 ราย คิดเป็น 78% โดยจังหวัดสีขาว ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 28 จังหวัด สีเขียวมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1-10ราย 30 จังหวัดหากรวมจังหวัดขาวเขียวจะเป็น 58 จังหวัด สีเหลืองมีผู้ติดเชื้อใหม่ 11-50ราย 13 จังหวัด สีส้มมีผู้ติดเชื้อใหม่ 51-100ราย 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ปทุมธานี เพชรบุรี และสีแดงติดเชื้อใหม่ มากกว่า 100 ราย มี 3 จังหวัด คือ กทม. สมุทรปราการ และนนทบุรี
การระบาดที่พบในจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นวันที่ 28 พ.ค. มี 4 คลัสเตอร์ใหม่ ใน 4 จังหวัด คือ จ.มหาสารคาม พื้นที่กันทรวิชัย สถานที่มหาวิทยาลัยของรัฐ ติดเชื้อแล้ว 11 ราย จ.เพชรบุรี พื้นที่เขาย้อย โรงงานผลิตรองเท้า 21 ราย จ.ชลุบรี อ.เมือง ชุมชนบางทราย 32 รายและจ.ตรัง อ.กันตัง โรงงานผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ 36 ราย
เฉพาะกทม. มีคลัสเตอร์ต้องเฝ้าระวัง 43 แห่ง แยกเป็นคลัสเตอร์เฝ้าระวังสูงสุด 33 แห่ง เฝ้าระวัง 6 แห่ง และพบใหม่ 4 แห่งคือ แคมป์ก่อสร้าง เขตดินแดง วัฒนา ปทุมวัน และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เขตคลองสามวา
เมื่อแบ่ง 50 เขตในกทม.เป็น 6 กลุ่มเขต เพื่อจำแนกสถานการณ์การระบาดตามเหตุการณ์ พบว่า คลัสเตอร์ที่มีผู้ป่วยภายใน 14 วันมี 22 เขต คือ โซน กรุงเทพฯกลาง 7 เขต ดินแดง ดุสิตป้อมปราบศัตรูพ่าย พระนคร ราชเทวี สัมพันธวงศ์ห้วยขวาง โซนกรุงเทพฯตะวันออก4 เขต คลองสามวาบางกะปิ มีนบุรี หนองจอก กรุงเทพใต้ 7 เขต คลองเตย บางคอแหลม บางรัก ปทุมวัน ยานนาวา วัฒนา สวนหลวง กรุงเทพฯเหนือ 1 เขต บางซื่อ กรุงธนใต้ 2 เขต ทุ่งครุ บางแค และกรุงธนเหนือ 1 เขต บางกอกน้อย
ขณะที่คลัสเตอร์ที่ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ใน 14 วัน โซนกรุงเทพกลาง ไม่มี โซนกรุงเทพฯตะวันออก เขตประเวศ โซนกรุงเทพฯใต้ เขตสาทร โซนกรุงเทพฯเหนือ เขตดอนเมือง บางเขน หลักสี่ โซนกรุงธนใต้ ไม่มี และโซนกรุงธนเหนือ เขตบางพลัด

Adblock test (Why?)


โควิด-19คลัสเตอร์ใหม่ 'โรงงานถุงมือยางทางการแพทย์' - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

สธ.เร่งสอบสาวหาดใหญ่ ลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด หลังรับวัคซีน 2 สัปดาห์ - ข่าวสด

กระทรวงสาธารณสุข เร่งสอบสวนโรคกรณีหญิงเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 สัปดาห์ อยู่ระหว่าง
การรวบรวมข้อมูลเสนอที่ประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญ สรุปสาเหตุ 30 พ.ค.นี้

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

วันที่ 29 พ.ค.64 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ กรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเพื่อนหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ของซิโนแวคประมาณ 2 สัปดาห์ ว่า กระทรวงสาธารณสุข ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า ขณะนี้ ศูนย์ประสานงานฯ AEFI ของโรงพยาบาลหาดใหญ่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ได้ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริง

อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ประวัติการรักษา เพื่อเสนอต่อคณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาเหตุการณ์การไม่พึงประสงค์ภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค จังหวัดสงขลา กำหนดประชุมร่วมกันในวันที่ 30 พฤษภาคม 2564 เพื่อสรุปสาเหตุการเสียชีวิต ตามระบบการเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค (Adverse Events Following Immunization : AEFI) ที่วางไว้

อย่างไรก็ตาม จะต้องรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมตามแนวทางปฏิบัติการการเฝ้าระวัง AEFI กรณีที่มีผู้เสียชีวิต โดยประสานขออนุญาตครอบครัวทำการพิสูจน์ศพ หรือการตรวจศพ โดยการเอกซเรย์ และเก็บตัวอย่าง ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต รวมทั้งติดตามผู้รับวัคซีนในล็อตเดียวกัน โดยเฉพาะหญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยข้อสรุปจากคณะกรรมการ AEFI จังหวัด จะเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ AEFI ระดับประเทศ ที่ประกอบด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณา เพื่อชี้แจงสร้างความเข้าใจกับครอบครัว สังคม ต่อไป

ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรคของทีมสอบสวนควบคุมโรคระบาดวิทยา รพ.หาดใหญ่ ผู้เสียชีวิตเป็นหญิง
อายุ 32 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ได้รับวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 1 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ หลังฉีดสังเกตอาการ 30 นาทีไม่มีอาการผิดปกติ ไลน์หมอพร้อมติดตามอาการวันที่ 1 มีอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ วันที่ 7 หลังฉีด มีอาการปวดศีรษะ เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เช้าวันที่ 27 พ.ค. หมดสติ รถพยาบาลส่งห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ แพทย์ประเมินอาการแรกรับ มีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ได้ช่วยฟื้นคืนชีพ ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาต่อมา แพทย์วินิจฉัยมีภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดเฉียบพลัน

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ในการเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีน ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายแข็งแรง ไม่มีไข้ ไม่มีอาการป่วย ดื่มน้ำให้เพียงพอ และแจ้งประวัติการแพ้ยาหรือวัคซีน โรคประจำตัว ให้แพทย์ทราบ สำหรับอาการไม่พึงประสงค์ ส่วนใหญ่เป็นอาการที่พบได้ทั่วไปหลังการฉีดวัคซีน เช่น เจ็บ บวม มีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ส่วนอาการแพ้วัคซีนรุนแรง จะเหมือนคนแพ้อาหารทะเล ไรฝุ่น โปรตีนในนมวัว มีอาการตั้งแต่แพ้ไม่มากมีผื่น จนถึงความดันตกรุนแรงได้ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ปวดศีรษะรุนแรง ปากเบี้ยว กล้ามเนื้ออ่อนแรง มักพบหลังการฉีด 15 นาที

Adblock test (Why?)


สธ.เร่งสอบสาวหาดใหญ่ ลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด หลังรับวัคซีน 2 สัปดาห์ - ข่าวสด
Read More

อุทาหรณ์แมวกัดแผลเน่า-เแบคทีเรียกินเนื้อ - สํานักข่าวไทย TNAMCOT

Adblock test (Why?)


อุทาหรณ์แมวกัดแผลเน่า-เแบคทีเรียกินเนื้อ - สํานักข่าวไทย TNAMCOT
Read More

โควิดลามโรงงานผลิตรองเท้า-ถุงมือยางแพทย์ "คลัสเตอร์ใหม่" - ข่าวไทยพีบีเอส

ศบค.พบ 2 จังหวัดมีรายงานคลัสเตอร์ใหม่ระบาดในโรงงานผลิตรองเท้า ที่เขาย้อย จ.เพชรบุรี ติดเชื้อ 21 คน ส่วนที่ จ.ตรัง อ.กันตัง โรงงานผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ ติดเชื้อแล้ว 36 คน ยอมรับแนวโน้มการติดเชื้อในเรือนจำยังน่าห่วง 2,702 คน

วันนี้ (29 พ.ค.2564) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลกพบ 170 ล้านคนเป็นวันแรก โดยไทยอยู่ในลำดับที่ 84 ของโลก มีรายงานติดเชื้อเพิ่มรายใหม่ 4,803 คน รวมผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่เดือนเม.ย.นี้ จำนวน 120,916 คน เสียชีวิตเพิ่มอีก 34 คน รวมเสียชีวิตระลอกใหม่ 894 คน หายป่วยกลับบ้านเพิ่มแล้ว 4,439 คนรวม

หายป่วยสะสม 74,885 คน และผู้ป่วยที่ยังรักษาในโรงพยาบาล 46,480 คน อาการหนัก 1,221 คน และใส่เครื่องช่วยหายใจ 406 คน

ส่วนการฉีดวัคซีนแล้ว 3,504,125 โดส เข็มที่ 1 จำนวน 2,415,903 คน เข็มที่สอง จำนวน 1,088,222 คน

สำหรับผู้เสียชีวิต 34 คน แบ่งเป็นกทม. 21 คน ปทุมธานี เชียงราย สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 คน ส่วนเพชรบุรี เพชรบูรณ์ นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี สงขลา และสระบุรี จังหวัดละ 1 คน

พบว่าผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย 18 คน เพศหญิง 16 คน อายุระหว่าง 35-87 ปี (ค่ากลางอายุ 66 ปี) นอนรักษานานสุด 36 วัน ปัจจัยเสี่ยงยังมาจากโรคประจำตัว และมาจากคนในครอบครัว อาชีพเสี่ยง และไปในสถานที่เสี่ยง

ส่วนผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 51 คน มาจากซาอุดิอาระเบีย 3 คน และเซอร์เบีย 1 คน จำนวนนี้มาจากกัมพูชา 47 คน พบ 1 คนลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ส่วนที่เหลือมาจากช่องทางปกติ ด่านถาวรทางบก

อย่าลักลอบเข้ามา เพราะฝ่ายความมั่นคงต้องทำงานหนัก และมีการจับกุมผู้ลักลอบเข้ามาผิดกฎหมาย 245 คน แบ่งเป็นทางเมียนมา 139 กัมพูชา 32 คน ลาว 28 คน

คลัสเตอร์เรือนจำยังน่าห่วงติดเพิ่ม 2,702 คน 

โฆษกศบค.กล่าวอีกว่า ส่วน 10 จังหวัดที่ยังมีผู้ติดเชื้อสะสมจำนวนมาก อับดับ 1 กทม.39,463 คน นนทบุรี 6,576 คน สมุทรปราการ 6,397 คน ชลบุรี 4,515 คน เพชรบุรี 4,437 คน เชียงใหม่ 4,067 คน ปทุมธานี 3,383 คน สมุทรสาคร 2,441 คน สุราษฎร์ธานี 1,666 คน ประจวบคีรีขันธ์ 1,685 คน

ส่วนคลัสเตอร์เรือนจำ วันนี้ติดเพิ่ม 2,702 คนทำให้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 22,398 คน ส่วน กทม.วันนี้ ตัวเลขติดเชื้อรายวัน 1,054 คน ยอดสะสม 39,463 คน

ขณะที่ตัวเลขการติดเชื้อในเรือนจำ ที่มีตัวเลขเพิ่ม 2,702 คน ได้มีการประชุมวิดิโอคอนเฟอร์เรน พบว่า ตัวเลขผู้ต้องขังที่ติดมาจากเรือนจำในจ.นนทบุรี ติดเพิ่ม 2,450 คน คือ เรือนจำบางขวาง 481 คน และเรือนจำนนทบุรี 1,919 คน

และทางจังหวัดแจ้งเตรียมจัดพื้นที่รองรับผู้ป่วยหนัก และการควบคุมพื้นที่ไม่ให้เกิดการระบาด รวมทั้งยังต้องมีการค้นหาเชิงรุก จึงทำให้มีตัวเลขสูงรายงานออกมา

คลัสเตอร์ใหม่ 3 จว.ระบาดในโรงงาน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนต่างจังหวัด พบว่า จ.นนทบุรี ตัวเลขมาจากพื้นที่แคมป์ก่อสร้างเพิ่ม 122 คน รวมตัวเลขสะสม 697 คน ส่วนจ.สมุทรปราการ โรงผลิตอาหารสำเร็จรูปจากสัตว์น้ำ เนื้อสัตว์ เป็นชาวไทยและเมียนมา ติดเชื้อเพิ่ม 44 คน รวมตัวเลขสะสม 278 คน จ.ตาก บ้านผาผึ้ง เป็นผู้สัมผัสในชุมชนเพิ่ม 6 คน ตัวเลขสะสม 51 คน

ส่วนจ.ประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ อ.หัวหิน โรงงานสับปะรดกระป๋อง ชาวไทยและเมียนมา 11 คน รวมตัวเลขสะสม 89 คน

นอกจากนี้มี จ.ระนอง แรงงานแพปลา ชาวเมียนมา 5 คนรวมตัวเลขสะสม 606 คน และจ.นราธิวาส สัมผัสในชุมชน เพิ่ม 19 คน รวมตัวเลขสะสม 134 คน

ขณะที่ จ.มหาสารคาม พื้นที่ อ.กันทรวิชัย พบในมหาวิทยาลัยของรัฐ ติดเชื้อ 11 คน ส่วนจ.เพชรบุรี กระจายใน 10 อำเภอ โรงงานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชาวไทย เมียนมา กัมพูชา อินเดีย และจีน ติดเพิ่ม 30 คน รวมตัวเลขสะสม 3,207 คน

นอกจากนี้ยังมีคลัสเตอร์ใหม่ที่ อ.เขาย้อย เป็นโรงงานผลิตรองเท้า ติดเชื้อแล้ว 21 คน ส่วนที่จ.ชลบุรี พื้นที่อ.เมือง ชุมชนบางทราย แรงงานไทย เมียนมา กัมพูชา ติดเชื้อแล้ว 32 คน และ จ.ตรัง อ.กันตัง โรงงานผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ ติดเชื้อแล้ว 36 คน

28 จังหวัดไม่พบผู้ติดเชื้อแล้ว

ส่วนจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 28 จังหวัด คือ สระแก้ว อุบลราชธานี พิษณุโลก ลำพูน ลำปาง ลพบุรี อ่างทอง สุรินทร์ นครพนม ยโสธร ตราด น่าน สุโขทัย ชุมพร สิงห์บุรี พะเยา เลย แพร่ อุตรดิตถ์ ชัยนาท หนองคาย พังงา อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน หนองบัวลำภู มุกดาหาร อุทัยธานี และสตูล

ส่วน 30 จังหวัดกลุ่มสีเขียว ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1-10 คน ได้แก่ ศรีสะเกษ จันทบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี นครศรีธรรมราช ระนอง อุดรธานี เชียงราย นครสวรรค์ กระบี่ เพชรบูรณ์ ภูเก็ต นครนายก พิจิตร กำแพงเพชร สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี ยะลา ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ บึงกาฬ ระยอง พัทลุง ปัตตานี ชัยภูมิ สกลนคร กาฬสินธุ์

ภาพรวมถือว่าเกินครึ่งของประเทศแล้ว อยากให้คงตัวเลขนี้ ถ้าเป็นศูนย์อย่างน้อย 14 วัน จะลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และขอแรงดูแลพฤติกรรมส่วนตัว ผู้ประกอบการดูแลเชิงพื้นที่

อ่านขาวที่เกี่ยวข้อง

ไทยป่วยโควิดเพิ่ม 4,803 คน หายป่วย 4,439 คน

ดีอีเอสจ่อดำเนินคดี “แอคแคปฯ” ปมหนังสือวัคซีน อ้างดีสเครดิตรัฐบาล

Adblock test (Why?)


โควิดลามโรงงานผลิตรองเท้า-ถุงมือยางแพทย์ "คลัสเตอร์ใหม่" - ข่าวไทยพีบีเอส
Read More

เบื้องลึก! "แพทย์ชนบท" ชี้ 3 เหตุผล ชะลอ "หมอพร้อม" ย้ำรัฐบาลควรบอกความจริงประชาชน - pptvhd36.com

จากกรณีที่ประชาชนเกิดความสับสน เรื่องการลงทะเบียนจองวัคซีนโควิด ผ่านทางช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะ "หมอพร้อม" ช่องทางหลัก ช่องทางแรกของการลงทะเบียนรับวัคซีนโควิด- 19 ที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค.ออกมาประกาศเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ขอให้ "ชะลอ" การลงทะเบียนหมอพร้อมไว้ก่อน และจะมีช่องทางอื่นแทน พร้อมแจ้งว่าจะมีการจัดสรรวัคซีนแผนใหม่ เรื่องนี้ประชาชนสับสน ช่องทางลงทะเบียนที่หลากลาย ซ้ำซ้อน และไม่ชัดเจน "ชมรมแพทย์ชนบท" เล่าเรื่องหมอพร้อม ทำไม ไม่พร้อม ผ่านเพจเฟซบุ๊ก 

ไทยคู่ฟ้า แพลม มีแอปพลิเคชันใหม่ รองรับฉีดวัคซีน ชะลอ "หมอพร้อม"

โควิดพุ่ง 4,803 ราย ผู้ติดเชื้อใหม่ ตายเพิ่มอีก 34 ราย

เบื้องลึก! "แพทย์ชนบท" ชี้ 3 เหตุผล ชะลอ "หมอพร้อม" ย้ำรัฐบาลควรบอกความจริงประชาชน

เพจเฟซบุ๊ก ชมรมแพทย์ชนบท ซึ่งเป็นการรวมตัวของแพทย์ในโรงพยาบาชุมชนซึ่งทำงานในชนบท มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน โพสต์ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2564 ว่า "ลับลวงพราง วัคซีนโควิด ตอน 1

เกิดอะไรขึ้นกับหมอพร้อม จึงต้องปิดตัวลงอย่างฉับพลัน

รัฐบาลสั่งยุติการลงทะเบียนในหมอพร้อม บำราศนราดูรเลื่อนนัดการฉีดแอสตร้า (วัคซีนโควิด แอสตร้าเซเนก้า) ออกไปก่อน หลังจากนั้น รมต.อนุทิน ก็แถลงว่า วัคซีนมีแน่ ยี่ห้อไหนก็ป้องกันโควิดได้ แถมด้วยข่าวราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มมาขาย เท่านี้แหละ ความปั่นป่วนก็เกิดในทันที

ปัจจุบัน คนไทยคาดหวังกับการมีวัคซีนโควิดฉีดอย่างมาก ประดุจเป็นเสื้อชูชีพบนเรือที่กำลังเผชิญพายุคลื่นลมแรงในขณะที่เรือใกล้ล่ม วัคซีนจึงเป็นความหวังของทุกคน ดังนั้นดีเดย์ 7 มิถุนายน ฉีดแอสตร้าเซเนก้าทั่วไทยนั้นจึงมีความหมายมาก คือวันเวลาแห่งความหวัง แล้วแท้จริงเกิดอะไรขึ้น

คำตอบว่าแท้จริงเกิดอะไรขึ้นนั้น คำตอบช่างหายากเหรือเกิน ไม่มีการแถลงเป็นทางการ จึงต้องปะติดปะต่อเหตุการณ์ บวกกับการหาข้อมูลลึกๆ จึงพอจะได้ความดังนี้

1.จริงๆแล้วแอพหมอพร้อมไม่ได้มีปัญหาอะไรในตัวมันเอง แต่เหตุที่ต้องยุติการใช้แอพหมอพร้อมในการจองคิวฉีดวัคซีน เพราะวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า จากสยามไบโอไซเอนซ์ไม่มาตามนัด คือมาช้าและมาน้อยกว่าที่รับปากกันไว้ เมื่อของมาน้อยหากยังลงทะเบียนต่อเนื่องก็จะไม่มีวัคซีนให้ฉีดตามวันจอง ทางออกที่ง่ายที่สุดก็คือ ปิดระบบหมอพร้อม นั่นเอง

2.ประกอบกับลำปางโมเดล ที่ทำให้ ศบค.กดดันทุกจังหวัด เกิดการเลียนแบบ มีการผสมโรงใส่ชื่อผู้สนใจฉีดวัคซีนมาใส่โดยไม่ได้สอบถามความประสงค์เจ้าตัว จนยอดการจองนั้นมากขึ้นเป็น10 เท่า พอวัคซีนไม่มาตามนัดก็เลยยิ่งแย่ มีdemand แต่ไม่มี supply

3.และสถานการณ์การระบาดโควิดมีการกระจุกตัวในบางจังหวัด แต่การลงหมอพร้อมกลับลงมากในจังหวัดมีการระบาดต่ำ ทำให้วัคซีนที่มีน้อยไม่ตอบโจทย์การลดการป่วยการตายในพื้นที่ระบาดหนัก ต้องจัดไปตามการจอง

หากวัคซีนมามากพอก็คงไม่มีอะไร แต่พอวัคซีนแอสตร้าเซเนก้ามาน้อยกว่าที่รับปากไว้ ร่วมกับ 3เหตุข้างต้น ศบค.จึงเลือกประกาศให้ปิดการใช้งานแอพหมอพร้อมไปก่อน แทนที่จะบอกความจริงกับหมอกับประชาชน แอพหมอพร้อมเลยกลายเป็นหมอเดี้ยงไปเสียแล้ว และคาดว่า อาจจะไม่ได้กลับมาใช้ในการจองวัคซีนอีกก็เป็นได้

ผู้ปิดฉากหมอพร้อมคือ ศบค.ในนามนายกฯประยุทธ์ แต่ต้นเหตุที่แท้จริงก็คือสยามไบโอไซเอนซ์ส่งมอบวัคซีนได้น้อยกว่าที่วางแผนไว้นั่นเอง

ปล.​ ไม่ใช่ความผิดสยามไบโอไซเอนซ์ การผลิตวัคซีนล็อตแรกๆ​ ย่อมต้องผ่านขั้นตอนและอุปสรรค​ เขาทำเต็มที่เต็มกำลัง​

เพียงแต่รัฐบาลควรบอกข้อเท็จจริงกับประชาชนแบบตรงไปตรงมา"

Adblock test (Why?)


เบื้องลึก! "แพทย์ชนบท" ชี้ 3 เหตุผล ชะลอ "หมอพร้อม" ย้ำรัฐบาลควรบอกความจริงประชาชน - pptvhd36.com
Read More

ทำงานหนักจนลืมกินข้าว ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารจริงหรือไม่? - Hfocus

การกินอาหารไม่ตรงเวลา มีผลต่อโรคกระเพาะจริงไหม? ปรับพฤติกรรมอย่างไรจะช่วยลดอาการป่วย  ด้วยพฤติกรรม การใช้ชีวิตในปัจจุบัน ทำให้บางคนไม่สามา...