Sujyap: หมอยง แนะลดปริมาณวัคซีนไฟเซอร์-โมเดอร์นา ในเด็ก ชี้ภูมิต้านทานโควิดดีกว่าผู้ใหญ่

หมอยง แนะลดปริมาณวัคซีนไฟเซอร์-โมเดอร์นา ในเด็ก ชี้ภูมิต้านทานโควิดดีกว่าผู้ใหญ่

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กถึงขนาดของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็ก และผู้ใหญ่ ว่า ขนาดวัคซีนในเด็ก และผู้ใหญ่ ตามหลักการให้วัคซีนในอดีต เช่น ไวรัสตับอักเสบ บี และเอ วัคซีนขนาดเด็ก และผู้ใหญ่ จะแบ่งกันที่อายุ 18 ปี เด็กใช้ครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่ เด็กจะตอบสนองภูมิต้านทานได้ดีมาก ดีกว่าผู้ใหญ่ จึงใช้ขนาดวัคซีนน้อยกว่าผู้ใหญ่ วัคซีน mRNA ไฟเซอร์ขนาดของเด็ก 5-11 ปี ให้เพียง 1 ใน 3 ของผู้ใหญ่ (จาก 30 mcg เป็น 10 mcg) ดังนั้นจึงเชื่อว่าขนาดของเด็ก 12-18 ปี ที่ระบบภูมิต้านทานดี วัคซีนไฟเซอร์ไม่น่าจะต้องใช้ขนาดผู้ใหญ่ น่าจะลดขนาดลงเพื่อลดอาการข้างเคียงในเด็กลงได้ ทำนองเดียวกัน โมเดอร์นาที่มีขนาดผู้ใหญ่ ให้ถึง 100 mcg เมื่อให้ในเด็กจะต้องลดลงเป็นครึ่งหรือ 1 ใน 4 ของผู้ใหญ่คงต้องรอการศึกษา และขณะนี้กำลังมีการศึกษากันมากทั่วโลก

ทั้งนี้ ศ.นพ.ยง ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมภายหลังรับมอบรางวัลผู้เสียสละเพื่อสังคม ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า การให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็กเป็นสิ่งจำเป็นต้องให้และวัคซีนต้องปลอดภัย ซึ่งขนาดของวัคซีนที่ให้ในเด็กอายุ 12-18 ปี แนวโน้มเชื่อว่าน่าจะปรับลดขนาดการให้ลง เพราะเด็กอายุ 11 ปี สรีระร่างกายก็ใกล้เคียงเด็ก 12 ปี ต้องมีการศึกษาวิจัย ขณะนี้ที่ศูนย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการศึกษาวิจัยยู่ นอกจากนี้ ที่ศูนย์กำลังศึกษาวิจัยการลดโดสเหลือครึ่งหนึ่งในการให้เข็มที่ 3 เป็นเข็มกระตุ้น หรือบูสเตอร์ โดส ซึ่งน่าจะเพียงพอทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยศึกษาในวัคซีนชนิด mRNA ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา คาดว่าผลการศึกษาจะออกมาเร็วๆ นี้ ไม่เกินปีใหม่ ส่วนการเปิดประเทศนั้น ไม่มีความคิดเห็น ทุกอย่างก็ต้องอยู่ในภาวะสมดุล