สธ.หวั่นช่วงจับจ่ายในเทศกาลตรุษจีนกับการผ่อนคลายให้นั่งดื่มในร้านอาหารได้ถึง 5 ทุ่ม ทำยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันกลับมาพุ่ง หลังยืนอยู่ที่ 7-8 พันคนต่อวันมาตลอดสองสัปดาห์หลังปีใหม่ แม้ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ได้แต่ย้ำขอประชาชนป้องกันตัวเองแบบครอบจักรวาล รวมถึงเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกลุ่มสูงวัย-ป่วยเรื้อรัง ขณะเดียวกันชุดกงเต๊กตรุษจีนปีนี้อินเทรนด์ มีวัคซีนป้องกันโควิดให้ลูกหลานซื้อไปเซ่นไหว้ให้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับด้วย
แม้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รายวันของไทยจากช่วงปีใหม่เป็นต้นมายังทรงตัวอยู่ที่ 7-8 พันคนต่อวัน ไม่ได้พุ่งทะลุหมื่นอย่างที่คาดการณ์ แต่ใกล้เทศกาลตรุษจีนในปลายเดือนนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่หลายฝ่ายเริ่มกังวลว่าอาจส่งให้ผู้ป่วยโควิด-19 พุ่งเพิ่มขึ้นจากการทำกิจกรรมร่วมกัน

ติดเชื้อจากนอก ปท.มาไม่หยุด
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,686 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 7,445 คน มาจากเรือนจำ 55 คน เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 186 คน จาก 39 ประเทศ โดยประเทศต้นทางที่พบผู้ติดเชื้อมากสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ รัสเซีย 49 คน ตามด้วยอินเดีย 16 คน และคาซัคสถาน 15 คน ล้วนเป็นต่างชาติทั้งหมด และเมื่อแยกระบบพบมาจากเทสต์แอนด์โก 22 คน แซนด์บ็อกซ์ 128 คน และควอรันทีน 36 คน
ป่วยตาย 13 ศพ มีเบลเยียม 1
ส่วนผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มขึ้น 7,445 คน อยู่ระหว่างรักษา 83,459 คน อาการหนัก 564 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 122 คน เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 13 คน เป็นคนไทย 12 คน ชาวเบลเยียม 1 คน ขณะที่ผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมี 9 คน และป่วยโรคเรื้อรัง 4 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,377,500 คน มียอดหายป่วยสะสม 2,272,009 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 22,032 คน
โควิด กทม.ยังทะลุพันคน
สำหรับการติดเชื้อพบครบทุกจังหวัด โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กทม. 1,150 คน สมุทรปราการ 688 คน ภูเก็ต 412 คน ชลบุรี 394 คน นนทบุรี 325 คน ขอนแก่น 275 คน ปทุมธานี 253 คน อุบลราชธานี 155 คน ลพบุรี 141 คน และเชียงใหม่ 125 คน ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตมากสุดได้แก่ กทม.จำนวน 2 คน ขณะที่การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ฉีดได้เพิ่ม 130,281 โดส รวมฉีดวัคซีนสะสม 112,252,324 โดส

แนะสูงวัย-มีโรคเรื้อรังฉีดวัคซีน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม พอใจภาพรวมสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อในวันนี้ต่ำกว่า 8,000 คน มอบกระทรวงสาธารณสุขประเมินยอดผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นว่าเป็นเพียงการพุ่งขึ้นในระยะสั้นหรือต่อเนื่อง รวมทั้งให้เฝ้าระวังการระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นในสถานประกอบการ สถานบันเทิง ร้านอาหาร โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่อาจจะกลายเป็นการนำเชื้อกลับเข้าสู่ชุมชนหรือครอบครัวได้อีกระลอก นอกจากนี้ นายกฯยังย้ำถึงประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนสามารถป้องกันอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตได้ จึงขอเชิญชวนผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยสามารถติดต่อรับวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้าน
ป่วยรุนแรงไม่มากตามคาด
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่แนวโน้มตัว เลขติดเชื้อมากขึ้นว่า ขณะนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่เฉลี่ย 8,000 รายต่อวัน ยังไม่ถือว่าพุ่งขึ้นมาก ส่วนผู้ป่วยอาการรุนแรงก็ไม่เยอะ เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้จริงๆ ถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ แต่ด้วยสายพันธุ์โอมิครอนที่ติดง่าย แพร่เชื้อเร็วจึงยังต้องระวังต่อเนื่อง เตียงไอซียูของโรงพยาบาล (รพ.) โรงเรียนแพทย์ยังมีเพียงพอรองรับ ต่างจากเดลตา ที่ผู้ป่วยอาการหนักค่อนข้างมากกว่า ดังนั้น ในผู้ติดเชื้อโควิดที่ไม่มีอาการจะให้รักษาที่บ้าน (Home Isolation-HI) ซึ่งพิสูจน์ว่าได้ผล เพราะสะดวกมีช่องทางติดต่อแพทย์ หากอาการมากขึ้นก็ส่งเข้า รพ. เท่าที่ดูผู้ติดเชื้อที่อยู่ HI แล้วมีอาการเปลี่ยนต้องเข้า รพ.มีไม่มาก
ก๊งเหล้าถึง 5 ทุ่มส่อทำป่วยเพิ่ม
เมื่อถามถึงการผ่อนคลายมาตรการให้นั่งดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ถึง 23.00 น. ใน 33 จังหวัด ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเป็นอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า เราติดตามสถานการณ์ทุกวัน เมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการใด จำนวนผู้ติดเชื้อก็เพิ่มขึ้น ตรงไปตรงมา เพราะถ้าเปิดกิจกรรมแล้วไม่ติดเชื้อเพิ่ม เราคงเปิดทุกกิจกรรม แต่ได้ชะลอการเปิดกิจกรรมในช่วงแรก เพราะต้องรอประเมินว่าโอมิครอนแท้จริงแล้วรุนแรงหรือไม่ ตอนนี้พิสูจน์แล้วว่าเตียงไอซียูเพียงพอรองรับได้ จึงผ่อนคลายมาตรการเป็นขั้นเป็นตอนไป ขณะที่ผับบาร์คาราโอเกะยังไม่ให้ เปิดบริการ อย่างไรก็ตาม ร้านอาหารที่เปิดให้ดื่มแอลกอฮอล์ ขอย้ำต้องมีมาตรการโควิดฟรีเซตติ้ง (Covid-19 Free Setting) พนักงานรับวัคซีนครบ ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ก่อนให้บริการลูกค้า รวมถึงร้านต้องมีระบบถ่ายเทอากาศได้
ATK มีประโยชน์คัดกรอง
ส่วนมาตรการตรวจ ATK First ก่อนเข้าสถานที่/กิจกรรม ที่หลายคนมองว่าอาจมีประโยชน์น้อยหากเพิ่งรับเชื้อมาแล้วตรวจไม่พบ แต่แพร่เชื้อได้นั้น นพ.โอภาสกล่าวว่า ATK เป็นเครื่องมือคัดกรองเบื้องต้น ผลตรวจอาจจะไม่แม่นยำเท่า RT-PCR แต่เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ เพราะว่าราคาถูกกว่า ตรวจง่าย รู้ผลเร็ว เราจึงใช้ประโยชน์นี้เพื่อคัดกรอง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องไปเจอคนจำนวนมากๆ เราแนะนำว่าให้ตรวจได้ตามความเสี่ยง เพื่อป้องกันตัวเองและคนรอบข้าง ทั้งนี้ เราต้องรู้ว่าแต่ละวิธีมีจุดแข็ง จุดอ่อน ดังนั้นจะให้ใช้ ATK แทน RT-PCR คงไม่ใช่ ขอให้มองจุดแข็ง ประโยชน์ของเครื่องมือนั้นๆ ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์

ตรวจ 6.2 พัน ผลบวก 211 คน
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ผลการตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วย ATK ที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ระหว่างวันที่ 11-21 ม.ค.ที่ผ่านมา มีประชาชนมารับการคัดกรองทั้งสิ้น 6,278 คน ผลเป็นลบ 6,067 คน หรือร้อยละ 96.64 ส่วนผู้ที่มีผลเป็นบวก มีจำนวน 211 คน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.36 ผู้ติดเชื้อทั้ง 211 คนได้รับการส่งตัวเข้ารักษาในระบบ Home Isolation 56 คน เริ่มมีอาการและรักษาในฮอสพิเทลของ รพ.ปิยะเวท 94 คน ส่งตัวไปรักษาในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 4 จำนวน 42 คน และส่งต่อไปยัง รพ.หรือเขตสุขภาพอื่นๆ อีก 19 คน
กังวลติดเชื้อช่วงจับจ่ายตรุษจีน
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ผลสำรวจอนามัยโพล วันที่ 15-21 ม.ค.2565 พบว่า คนไทยร้อยละ 65 ยังกังวลหากมีการระบาดของโรคโควิด-19 และปริมาณค่าฝุ่น PM2.5 สูง เรื่องที่กังวลมากที่สุดคือกลัวติดเชื้อจากการไปจับจ่ายซื้อของวันไหว้ในตลาด ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เกต ร้อยละ 51.8 รองลงมาคือกลัวการติดเชื้อจากการรวมญาติที่บ้าน หรือสถานที่พักอาศัย ร้อยละ 42 และห่วงผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง อาจติดเชื้อได้ง่าย มีอาการรุนแรง ร้อยละ 41.2 ขณะที่ร้อยละ 35 ไม่รู้สึกกังวล เนื่องจากมีการป้องกันตนเองอย่างดีแล้ว ร้อยละ 71.9 รู้สึกชินกับสถานการณ์ ร้อยละ 33.3 และได้รับวัคซีนครบแล้วตามเกณฑ์ ร้อยละ 29.7 นอกจากนี้ยังพบว่าหากมีการระบาดของโรคโควิด-19 และสถานการณ์ปัญหาฝุ่น PM2.5 ประชาชนร้อยละ 85.3 จะป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากป้องกันเมื่อไปที่สาธารณะ ร้อยละ 72.5 ล้างมือบ่อยๆ และร้อยละ 64.3 ติดตามสถานการณ์ฝุ่นและการระบาดของโรคเป็นระยะๆ

ย้ำป้องกันครอบจักรวาล
นพ.สุวรรณชัยกล่าวด้วยว่า ประชาชนที่มีกิจกรรม ช่วงวันตรุษจีน เช่น จับจ่ายซื้อของในวันไหว้ ทั้งในตลาด ห้างสรรพสินค้า หรือซุปเปอร์มาร์เกต หรือมีการรวมญาติไหว้บรรพบุรุษ รวมถึงการกินอาหารร่วมกันภายในครอบครัว ขอให้ปฏิบัติตามหลัก UP (Universal Prevention) หรือการป้องกันตนเองครอบจักรวาลอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดและการแพร่ของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคประจำตัว ควรให้ความระมัดระวัง และดูแลเป็นพิเศษ พร้อมทั้งให้ร่วมกันลดปริมาณการเกิดฝุ่น PM2.5 โดยไม่เผากระดาษเงิน กระดาษทอง ไม่เผาขยะ ใช้ธูปสั้น หรือเปลี่ยนไปใช้ธูปไฟฟ้าแทน
ป่วยรุนแรงถึงหนักเพิ่มช้า
วันเดียวกัน รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊กว่า ยังคงไปต่อช้าๆ ไม่ถึงจุดพีก เช่นเดียวกับที่ไม่สามารถตอบคำถามสื่อได้ว่ายอดจะเริ่มลดเมื่อไร เพราะมีตัวแปรที่เกี่ยวข้องหลายด้านซึ่งยากจะคาดเดา ที่แน่ๆยอดผู้ป่วยอาการรุนแรงและผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจยังเพิ่มต่อช้าๆ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังทรงตัว แต่อาจเห็นเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยในสัปดาห์หน้า จากการสอบทานข้อมูลในหลายโรงพยาบาล การสูญเสียเกิดขึ้นในกลุ่มคนเปราะบาง และผู้ไม่ได้รับวัคซีนหรือรับไม่ครบถ้วน แต่สำหรับภาคการแพทย์แล้ว ทุกชีวิตล้วนมีค่า สมควรแก่การรักษาเยียวยาไม่ว่าเขาจะเป็นใครมาจากไหน
10 จังหวัดติดเชื้อทะลุร้อยคน
ขณะเดียวกัน นอกจาก 10 จังหวัดพบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดตามรายงานของ ศบค.ข้างต้นแล้ว ผู้สื่อข่าว รายงานว่ามีอีก 10 จังหวัดทั่วประเทศ พบผู้ติดเชื้อ รายใหม่ทะลุเกินหลักร้อยคนต่อวัน โดยภาคใต้ ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช ติดเชื้อเพิ่ม 123 คน พัทลุง 102 คน ภาคตะวันออก จ.ระยอง พบเพิ่ม 107 คน พบผู้ติดเชื้อใน 6 อำเภอ โดยพบสูงสุดอยู่ใน อ.เมืองระยอง 56 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน เป็นหญิง อายุ 32 ปี อยู่ใน ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง ส่วนภาคกลาง ได้แก่ จ.นครปฐม 123 คน และสมุทรสาคร 122 คน

เลยอ่วมผู้ป่วยพุ่งจากหลายกลุ่ม
ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ชัยภูมิ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 117 คน บุรีรัมย์ 111 คน ร้อยเอ็ด 104 คน ศรีสะเกษ 115 คน และ จ.เลย พบผู้ป่วยวันนี้เพิ่ม 107 คน พบมากสุดที่ อ.เมืองเลย 66 คน ตามด้วย อ.ปากชม 24 คน อ.วังสะพุง 17 คน มาจากหลายคลัสเตอร์ อาทิ ร้านอาหารหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ตั้งแต่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คลัสเตอร์งานแต่ง ยังพบมีการระบาดติดเชื้อแพร่เป็นวงกว้าง ทำให้ต้องปิดสำนักงานทางราชการหลายแห่ง มีผู้ติดเชื้อลามไปเกือบทุกอำเภอ การแข่งขันกีฬา ฯลฯ ด้านนายณรงค์ จีนอ่ำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ตัวเลขที่ติดเป็นคลัสเตอร์เกี่ยวข้องกับการดื่ม การกิน ร้านอาหาร งานแต่งงาน พฤติกรรมการดื่มกิน ดังนั้น จากนี้ไปต้องใช้มาตรการที่ทางจังหวัดวางไว้
สั่งเข้มงวดเข้าเที่ยวงานประจำปี
นายณรงค์กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดงานประเพณี “งานกาชาด ดอกฝ้ายบาน สืบสานวัฒนธรรมไทเลย” ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 1-9 ก.พ.2565 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดเลย ประชาชนที่เข้างานจะต้องแสดงผลการฉีดวัคซีนเป็นใบรับรองหรือในมือถือ และมีจุดตรวจ ATK 1 จุด ที่หน้าศาลากลางจังหวัด การตั้งจุดคัดกรองอย่างเข้มงวดจำนวน 5 จุด โดยรอบบริเวณจัดงาน อีกทั้งยังจำกัดจำนวนคนเข้าเที่ยวงานแต่ละรอบ นอกจากนี้ เวทีคอนเสิร์ต สวนสนุกต่างๆ และการออกบูธของส่วนราชการ เอกชนต้องให้การสนับสนุนการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้นอีกชั้นด้วย
สุราษฎร์ฯ พร้อมปักเข็ม 4
ขณะที่จังหวัดที่เป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวอย่าง จ.สุราษฎร์ธานี มีการเตรียมพร้อมจัดฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้น เข็มที่ 4 ให้ประชาชนทั่วไปตามนโยบายของ ศบค. โดย นพ. จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จังหวัดมีแผนให้ประชาชนในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า สามารถวอล์กอินเข้ารับวัคซีนเข็ม 4 ได้ภายในปลายเดือนมกราคมนี้ โดยจะดำเนินการตามแผนการวอล์กอินเข้ารับวัคซีนเข็ม 3 ซึ่งจะเปิดให้บริการตามจุดฉีดวัคซีนของจังหวัดทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ จากนั้นจะขยายพื้นที่ไปยัง อ.บ้านตาขุน และ อ.พนม เพื่อเตรียมรองรับนักท่องเที่ยวในโครงการเทสต์แอนด์โกต่อไป โดยมีวัคซีนไฟเซอร์และแอสตราเซเนกาในจำนวนที่เพียงพอสำหรับผู้รับบริการ ทั้งผู้ที่ต้องการฉีดเข็ม 3 และเข็ม 4

วัคซีนโควิดโผล่ชุดกงเต๊กตรุษจีน
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจับจ่ายซื้อและขายเครื่องเซ่นไหว้ก่อนวันตรุษจีนในตลาดสดพะเยาอาเขต เทศบาลเมืองพะเยา ของชาวไทยเชื้อสายจีนยังไม่ค่อยคึกคัก เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบทั้งคนซื้อและคนขาย ขาดสภาพคล่องทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เจ้าของร้านตั้งตักเซ้งกล่าวว่าปีนี้การจับจ่ายซื้อของก่อนวันตรุษจีนเงียบเหงากว่าปีที่แล้วมาก เพราะปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้การจับจ่ายใช้สอยของคนไทยเชื้อสายจีนลดลง ส่วนเครื่องเซ่นไหว้กงเต๊ก ที่ร้านนำมาจำหน่ายส่วนมากจะเป็นกระดาษเงิน กระดาษทอง เงิน ทอง อาหารแห้ง ชุดแต่งกาย และยังมีวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเป็นที่สนใจของลูกค้ามาหาซื้อนำไปเซ่นไหว้ให้กับบรรพบุรุษในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้
ตลาดนัด-ตลาดสดยังเป็นจุดเสี่ยง
ส่วนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี แจ้งพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 79 คน พบมากสุดที่ อ.บ้านสร้าง 21 คน ตามด้วย อ.ศรีมหาโพธิ 20 คน โดยพบสถานที่เสี่ยงมีทั้งตลาดนัด ตลาดสด ร้านอาหาร โรงเรียน อาทิ อ.เมืองปราจีนบุรี ที่ตลาดคลองถม ตลาดล่างปราจีนบุรี ที่ อ.บ้านสร้าง โรงเรียนอนุบาลวัดบ้านสร้าง ตลาดนัดหน้าโรงเรียนชิตใจชื่นตลาดไนท์พลาซ่าบ้านสร้าง โรงเรียนบ้านหนองงูเหลือม วัดหนองงูเหลือม อ.ศรีมหาโพธิ ที่โรงเรียนมัธยมวัดใหม่กรงทอง อ.กบินทร์บุรี ที่โรงเรียนโปร่งสะเดา โรงเรียนวังตะเคียนวิทยาคม ตลาดนัดวังตะเคียน โรงเรียนวังดินสอ โรงเรียนเจียหมิน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวังตะเคียน อบต.วังตะเคียน โรงเรียนเขาไม้แก้วฯลฯ นอกจากนี้ รพ.บ้านสร้าง ได้เชิญชวนประชาชนมาฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 1 และ เข็มที่ 3 ระหว่างวันที่ 24-28 ม.ค. ณ ศาลาหลวงพ่อกัน วัดบ้านสร้าง ต.บ้านสร้าง ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. ที่ อ.ศรีมหาโพธิ ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 1-2 และเข็มที่ 3 ระหว่างวันที่ 24, 26, 31 ม.ค. ณ วัดใหม่กรงทอง ส่วน อ.กบินทร์บุรี ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 1-2 และเข็มที่ 3 ระหว่างวันที่ 24-28 ม.ค. และ วันที่ 30 ม.ค. ณ ที่ว่าการอำเภอกบินทร์บุรี
จับตาโอมิครอนสายย่อย
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ารัฐบาลอังกฤษเชื่อว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตัวกลายพันธุ์โอมิครอน ได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว หลังยอดติดเชื้อรายวันลดลงเหลือกว่า 76,000 คน จากที่เคยพุ่งทำสถิติวันละกว่า 170,000 คนเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พร้อมระบุว่าทางการอยู่ระหว่างการจับตาโอมิครอนตัวกลายพันธุ์ย่อย ที่มีชื่อรหัสว่า BA.2 หลังพบผู้ติดเชื้อในอังกฤษกว่า 400 คน แต่กำลังลุกลามหนักในเดนมาร์ก ที่ผู้ติดเชื้อโอมิครอนมากกว่าครึ่งเป็นโอมิครอนตัวกลายพันธุ์ BA.2 แต่เบื้องต้นนักไวรัสวิทยาเชื่อว่ายังไม่พบหลักฐานว่ามีอะไรน่าเป็นห่วง เพียงแต่มีคุณลักษณะที่ทำให้การตรวจแบบ PCR ไม่ค่อยแสดงผล แต่ตรวจหาเชื้อแบบอื่นๆได้ผล
ไฟเซอร์แนะฉีดวัคซีนปีละเข็ม
ด้านนายอัลเบิร์ต บัวร์ลา ผู้บริหารบริษัทเวชภัณฑ์ไฟเซอร์ของสหรัฐฯ กล่าวในงานสัมมนาที่ประเทศอิสราเอลถึงแนวโน้มการฉีดวัคซีนต้านไวรัสว่า คงไม่เหมาะสมเท่าไรที่ประเทศต่างๆ ต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือบูสเตอร์โดสให้แก่พลเมืองทุกๆ 4-5 เดือน สิ่งที่เราหวังในตอนนี้คือ ไฟเซอร์จะสามารถผลิตวัคซีนสำหรับการฉีดเพียงปีละ 1 เข็ม เพราะการฉีดปีละครั้งย่อมเกลี้ยกล่อมให้คนยอมฉีดง่ายกว่า ทำให้คนไม่ลืมฉีดง่ายกว่า ซึ่งในเรื่องนี้เชื่อว่า ไฟเซอร์มีความพร้อมที่จะปรับปรุงสูตรวัคซีนใหม่ ให้รับมือกับเชื้อกลายพันธุ์ทั้งหมด ไม่ว่าโอมิครอนไปจนถึงตัวกลายพันธุ์ตัวก่อนๆหน้า ทั้งเชื่อว่าจะผลิตป้อนสู่ตลาดโลกได้ภายในเดือน มี.ค.
ของเซ่นไหว้ กงเต๊กวัคซีน สธ.ทำใจติดเชื้อพุ่ง ยืดก๊งเหล้าถึง 5 ทุ่ม - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment