Rechercher dans ce blog

Wednesday, March 30, 2022

"หมอธีระ" เตือน ไม่ควรหลงเชื่อคำแนะนำให้ใช้ยา Ivermectin ในการรักษาโควิด - สยามรัฐ

วันที่ 31 มี.ค.65 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า...

ทะลุ 486 ล้าน

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 1,549,684 คน ตายเพิ่ม 3,759 คน รวมแล้วติดไปรวม 486,643,977 คน เสียชีวิตรวม 6,160,742 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีใต้ เยอรมัน ฝรั่งเศส เวียดนาม และอิตาลี

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 16 ใน 20 อันดับแรกของโลก

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 89.64 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 78.34

การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 42.13 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 31.55

...สถานการณ์ระบาดของไทย

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย

ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 12 ของโลก

...จบเสียทีกับเรื่องยาฆ่าพยาธิ

หลายเดือนที่ผ่านมา มีการปั่นกระแสข่าวทั่วโลกรวมถึงไทยเราด้วย ยุให้คนใช้ยาฆ่าพยาธิมารักษาโรคโควิด-19

ล่าสุดวารสารทางการแพทย์ระดับโลก New England Journal of Medicine เผยแพร่ผลการวิจัย Randomized double-blind placebo-controlled trial เรื่องนี้เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของยาฆ่าพยาธิ Ivermectin และยาหลอก ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ประเทศบราซิล

ผลการศึกษาพบว่า Ivermectin ไม่ได้ช่วยลดปริมาณไวรัส ไม่ได้ช่วยลดอัตราการนอนรพ. การใช้บริการห้องฉุกเฉิน หรืออาการรุนแรงใดๆ

ดังนั้นจึงไม่ควรหลงเชื่อคำแนะนำยุยงให้ใช้ยา Ivermectin ในการรักษาโรคโควิด-19 นะครับ

เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ...ทำในสิ่งที่ควรทำ

สถานการณ์การระบาดของไทยยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง รุนแรง กระจายทั่ว

ยืนยันว่ายากมากที่จะประกาศเป็นโรคประจำถิ่นได้ในระยะเวลาไม่กี่เดือนนี้

สำหรับคนที่ปกติดี การเตรียมอุปกรณ์จำเป็น หยูกยาพื้นฐาน และวางแผนจัดการตนเองหรือครอบครัวยามที่ฉุกเฉินเกิดปัญหาคนในบ้านติดเชื้อขึ้นมา และมีเบอร์ติดต่อ และฝหรือไลน์ของบุคลากรทางการแพทย์ที่รู้จักเอาไว้ จะเป็นประโยชน์มากเวลาเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้นมา และจะลดความเครียดกังวลไปได้ไม่มากก็น้อย

สถานการณ์ปัจจุบันคงเห็นแล้วว่า demand มากกว่า supply และนโยบายเกี่ยวกับการจัดระบบบริการดูแลผู้ติดเชื้อใหม่ที่เกิดขึ้นจำนวนมากในแต่ละวันนั้นยังมีปัญหามาก ทั้งเรื่องช่องทางการรับบริการ ยา รวมถึงกระบวนการสนับสนุน

สถานพยาบาลจำนวนมากกำลังประสบปัญหาบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรฝ่ายสนับสนุนเกิดติดเชื้อจำนวนไม่น้อยในแต่ละวันจากการปฏิบัติการหรือจากการใช้ชีวิตประจำวันส่วนตัวกับเพื่อนฝูงหรือครอบครัว จำเป็นต้องลดการบริการลง

สวนทางกับนโยบายเจอแจกจบที่อาจส่งผลให้ประชาชนต้องมารับบริการที่สถานพยาบาลมากขึ้น แทนที่จะเป็นบริการแบบทางไกล นี่เป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งผลกระทบแบบโดมิโน่ ทั้งในเรื่องภาระงานต่อบุคลากรและสถานพยาบาล ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแพร่เชื้อ รวมถึงภาระค่าใช้จ่าย เวลา และความลำบากในการเดินทางสำหรับประชาชน

คงจะเป็นประโยชน์ หากทางศบค.ทั้งชุดเล็กและชุดใหญ่ พิจารณาให้มีการประเมินแบบ 360 องศาทุกมิติ เพื่อประเมินผลกระทบจากนโยบายเจอแจกจบ มิใช่การประเมินความพึงพอใจในกลุ่มตัวอย่างจำนวนน้อยและระยะสั้นไม่กี่วัน

...ใส่หน้ากากเสมอ เว้นระยะห่างจากคนอื่น พบปะคนอื่นเท่าที่จำเป็น ใช้เวลาสั้นๆ เลี่ยงการกินดื่มหรือแชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่น หากไม่สบาย ควรแจ้งคนใกล้ชิด แยกตัว และไปตรวจรักษาให้หายดีเสียก่อน

คนที่เคยติดเชื้อมาแล้ว ยังต้องป้องกัน เพราะติดเชื้อซ้ำได้ นอกจากนี้ยังควรประเมินสุขภาพตนเองอย่างสม่ำเสมอ หากผิดปกติ สมรรถนะร่างกาย ความคิดความจำ หรืออารมณ์แตกต่างไปจากอดีต ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมและทันเวลา เพราะภาวะ Long COVID จะเกิดขึ้นได้

อ้างอิง

Reis G et al. Effect of Early Treatment with Ivermectin among Patients with Covid-19. NEJM. 30 March 2022.

Adblock test (Why?)


"หมอธีระ" เตือน ไม่ควรหลงเชื่อคำแนะนำให้ใช้ยา Ivermectin ในการรักษาโควิด - สยามรัฐ
Read More

No comments:

Post a Comment

ทำงานหนักจนลืมกินข้าว ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารจริงหรือไม่? - Hfocus

การกินอาหารไม่ตรงเวลา มีผลต่อโรคกระเพาะจริงไหม? ปรับพฤติกรรมอย่างไรจะช่วยลดอาการป่วย  ด้วยพฤติกรรม การใช้ชีวิตในปัจจุบัน ทำให้บางคนไม่สามา...