
สธ. รับมอบห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ Huo-Yan Air Laboratory จากรัฐบาลจีน ช่วยไทยต่อสู้กับโควิด-19 และโรคระบาดอื่นๆ
เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2565 ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะผู้บริหาร รับมอบห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ (The Huo-Yan Air Laboratory) จากมูลนิธิด้านการกุศล (Mammoth Foundation) สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งห้องปฏิบัติการดังกล่าวได้พัฒนาโดยบริษัทบีจีไอ จีโนมิกส์ (BGI Genomics) สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้แก่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 3 ห้อง
เพื่อเป็นการสนับสนุนประเทศไทยในการรับมือกับโรคโควิด-19 และโรคระบาดอื่นๆ ที่เป็นปัญหาทางด้านสาธารณสุข ภายใต้การประสานงานของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย โดยมี นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย และคณะ เป็นตัวแทนมอบ พร้อมด้วย นายซูเจี๋ย เชา รองประธาน บริษัท BGI Genomics ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายอนุทิน กล่าวว่า ในนามรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข ขอขอบคุณรัฐบาลจีน และมูลนิธิด้านการกุศล ของจีนที่มีความปรารถนาดีให้กับประเทศไทยตลอดมา ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศ และมีความมุ่งมั่นที่ต้องการจะแก้ไขสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ร่วมกัน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้สนับสนุนข้อมูล และแนวทางการควบคุมการระบาดโควิด-19 รวมทั้งได้บริจาคเวชภัณฑ์ ยา และวัคซีน ในการช่วยเหลือประเทศไทยต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19
ห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่หัว-เหยี่ยน (The Huo-Yan Laboratory) ถือกำเนิดขึ้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจีน มีการวางระบบห้องปฏิบัติการที่ถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อใช้ในการตรวจหาเชื้อไวรัสก่อโรค และเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ทั้งด้านเทคนิค และการบริการภายในอย่างครบครัน โดยห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่หัว-เหยี่ยนแห่งแรก ได้เริ่มทำการติดตั้งที่ธนาคารพันธุศาสตร์นานาชาติแห่งประเทศจีน (China National Gene Bank) ในมณฑลเซินเจิ้น
มีลักษณะเป็นห้องปฏิบัติการเป่าลมแบบพกพาที่ประกอบไปด้วยระบบจัดการของเสียทางการแพทย์ สามารถใส่เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ Real-time PCR เครื่องถอดรหัสทางพันธุกรรม และเทคโนโลยีการตรวจหาเชื้อไวรัส นอกจากนี้โครงสร้างของห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่หัว-เหยี่ยนถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการแปลงความดันบวก และลบจากระบบควบคุมความดัน และอากาศบริสุทธิ์อัจฉริยะ ด้วยต้นทุนในการก่อสร้าง และการใช้พลังงานที่ต่ำ
ทำให้ห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่นี้ใช้เวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมงในการเตรียม และติดตั้งเพียงแค่ 2-3 วัน ก็พร้อมใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมกับการวางระบบกระแสไฟฟ้าแบบรวม และระบบการระบายอากาศที่ดีเยี่ยม รองรับการวิเคราะห์ตัวอย่างมากกว่า 5,000 ตัวอย่างต่อวัน สามารถช่วยคัดกรองเป้าหมายและบรรเทาวิกฤตการณ์ โรคระบาดครั้งยิ่งใหญ่ในสังคมได้ ปัจจุบันห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่หัว-เหยี่ยนได้ติดตั้งไปแล้วกว่า 102 ห้อง ใน 38 ประเทศทั่วโลก
“ห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่นี้จะมีประโยชน์มาก เนื่องจากสามารถจัดเก็บ และเคลื่อนย้ายไปติดตั้งในสถานที่ต่างๆ ได้เป็นเทคโนโลยีที่แก้ปัญหาเรื่องข้อจำกัดด้านต้นทุน และระยะเวลาในการจัดตั้งห้องปฏิบัติการ มีความยืดหยุ่นสูง รวมทั้งสามารถปรับให้เหมาะสมตามความต้องการใช้งาน และนำไปใช้กับงานอื่นในระยะหลังการระบาดใหญ่ (Post pandemic) ได้ เช่น งานห้องปฏิบัติการชีวเคมี งานห้องปฏิบัติการภูมิคุ้มกันวิทยา งานตรวจวินิจฉัย ณ จุดดูแลผู้ป่วย (Point of care testing หรือ POCT) กระทรวงสาธารณสุขจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน” นายอนุทิน กล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
จีนมอบห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ให้ไทย สู้โรคระบาด - กรุงเทพธุรกิจ
Read More
No comments:
Post a Comment