ใต้ตาคล้ำอาจไม่ใช่ปัญหาสุขภาพร้ายแรง แต่ก็สร้างความกังวลใจไม่น้อยสำหรับปัญหาใต้ตาคล้ำ ที่พบได้เกือบจะทุกเพศทุกวัย “รอบตาคล้ำ” เป็นอาการแสดงที่พบได้จากตาทั้ง 2 ข้าง และมักเป็นที่เปลือกตาล่าง หากเป็นมาก อาจพบที่เปลือกตาบน คิ้ว ซึ่งลามไปยังโหนกแก้ม ขมับ หรือโคนจมูกได้ โดยมักพบได้เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน อาการคล้ำรอบดวงตามีหลายชนิด แบ่งตามสาเหตุของการเกิดได้ดังนี้
1. ตาคล้ำจากพันธุกรรม โดยจะพบได้ตามรูปโค้งของกระบอกตา ตั้งแต่หนังตาล่างโค้งไปจนถึงหนังตาบน สังเกตได้จากการพบอาการคล้ำลักษณะเดียวกันกับสมาชิกในครอบครัว
2. ตาคล้ำภายหลังจากการอักเสบรอบดวงตาเรื้อรัง มักพบได้ในผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง แพ้อากาศ หอบหืด จะมีอาการคันที่ตา และมีผื่นรอบดวงตาร่วมด้วย ผิวหนังมีลักษณะเป็นขุย หนาตัวขึ้น หรือเห็นร่องผิวหนังชัดขึ้น
3. ตาคล้ำจากการมีเส้นเลือดฝอยขยายตัว มักพบสีอมม่วงร่วมด้วย ซึ่งพบได้บ่อยบริเวณหนังตาล่างด้านใน นอกจากนี้ ผู้ที่มีผิวหนังใต้ตาบาง รวมถึงอายุที่มากขึ้นทำให้ไขมันใต้ผิวหนังน้อย จะยิ่งทำให้เห็นเส้นเลือดได้ชัดเจน
4. ตาคล้ำในผู้ที่มีถุงใต้ตา หรือมีร่องน้ำตาชัด เป็นการคล้ำจากการที่มีเงาของแสงตกกระทบผิวหนังที่ทำมุม หากมีไฟส่อง โดยตรงจะพบว่าอาการคล้ำจะดูจางหายไป
5. คล้ำจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น
- ผิวหนังแห้ง การมีรอยย่นใต้ตา ขยี้ตาบ่อย การใช้เครื่องสำอางรอบดวงตาบางชนิด
- ความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ช่วงที่มีประจำเดือน หรือช่วงตั้งครรภ์
- ขาดสารอาหารบางชนิด
- เจ็บป่วยเรื้อรัง เช่น โลหิตจาง ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
- จากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ สูบบุหรี่
แนวทางการรักษา
1. การใช้ยาทากลุ่ม Eyecream ซึ่งมีส่วนประกอบของ Vitamin A, Vitamin E, Vitamin C หรือ สารกลุ่ม Whitening ซึ่งวิธีนี้อาจช่วยทำให้รอยคล้ำดีขึ้นได้บ้าง แต่ควรระวังเนื่องจากครีมหลายชนิดค่อนข้างเหนียวเหนอะหนะ อาจไหลเข้าสู่ดวงตาทำให้มีอาการ ปวด แสบ น้ำตาไหลได้
2. การใช้ Laser ซึ่งมี 2 ประเภท คือ Laser ซึ่งช่วยให้ปริมาณเม็ดสีเมลานินที่เข้มให้ลดลง และอีกประเภทคือ Laser ลดการขยายตัวของเส้นเลือด การเลือกใช้ Laser ประเภทใดนั้นขึ้นอยู่กับการประเมินสาเหตุการเกิดรอยดำโดยแพทย์
3. ฉีดสารเติมเต็ม (Filler) สำหรับรอยคล้ำใต้ตาซึ่งเกิดจากการมีร่องลึกใต้ตาสำคัญที่สุดคือ การหันมาใส่ใจตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหารอบดวงตาแต่เนิ่นๆ ได้แก่ การพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะทำให้เกิดความเครียดกับร่างกาย ไม่ขยี้ตาบ่อย ๆ งดการรบกวนผิวหนังใต้ตา หลีกเลี่ยงแสงแดด และสารสัมผัสที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้รอบดวงตา ที่ขาดไม่ได้คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือเครื่องสำอางที่เหมาะสม ผ่านการจดแจ้งจาก อย. ทั้งนี้ การดูแลรักษารอยดำคล้ำใต้ดวงตานั้น ควรต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

หมดกังวลใต้ตาคล้ำ.. แนะวิธีรักษาช่วยรอบดวงตาสดใส - MCOT Plc
Read More
No comments:
Post a Comment